| ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
|---|
กระบวนการไต่สวนขอถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา (ประเทศสหรัฐอเมริกามีสภาผู้แทนราษฎรประจำมลรัฐอีก 50 สภาผู้แทนราษฎรจึงต้องเน้นคำว่าแห่งสหรัฐอเมริกา) ที่เริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2562 มุ่งเป้าส่วนใหญ่ไปที่เรื่องที่ทรัมป์ขอให้ประธานาธิบดียูเครนตรวจสอบคู่แข่งทางการเมือง คืออดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐโจ ไบเดน และลูกชาย นายฮันเตอร์ ไบเดน ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัทพลังงานในยูเครนโดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าจะอนุมัติเงินช่วยเหลือทางทหารให้กับประเทศยูเครน ซึ่งกำลังถูกรัสเซียรุกรานอยู่ซึ่งการกระทำของทรัมป์ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
เมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมานี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ลงมติครั้งสำคัญยิ่งเพื่อขอถอดถอน (อิมพีชเมนต์) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งด้วยเสียงส่วนข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นของพรรคเดโมแครต โดยมีมติให้ดำเนินการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ ในญัตติที่ 1 คือการใช้อำนาจในทางที่ผิด ด้วยคะแนนเสียง 230 ต่อ 197 เสียง ในขณะที่ญัตติที่ 2 คือ การขัดขวางกระบวนการตรวจสอบของรัฐสภา เสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ลงมติให้ถอดถอน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยคะแนนเสียง 229 ต่อ 198 เสียง ทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีคนที่สามในประวัติศาสตร์อเมริกาที่ถูกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐตั้งข้อหาขอถอดถอน โดยในอดีตมีประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน (ประธานาธิบดีคนที่ 17) และประธานาธิบดีบิล คลินตัน (ประธานาธิบดีคนที่ 42) เท่านั้นที่ถูกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาลงมติขอถอดถอนจากตำแหน่ง
หลังจากนี้วุฒิสภาแห่งสหรัฐอเมริกาก็จะรับไม้ต่อเพื่อพิจารณาการขอถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยทำหน้าที่ตัดสินโดยพิจารณาว่าจะถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี (Removal) หรือไม่
คาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ.2563 โดยทางวุฒิสภาจะใช้วิธีการจำลองวุฒิสภามาทำหน้าที่ศาลยุติธรรม ให้ฝ่ายตัวแทนของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ทำหน้าที่เป็นอัยการและวุฒิสมาชิกทั้งหมดทำหน้าที่เป็นคณะลูกขุนโดยประธานศาลฎีกาทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษา
การถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่งได้จำเป็นต้องใช้คะแนนเสียงของลูกขุน 67 คน จาก 100 คน หรือสองในสามของจำนวนวุฒิสมาชิกซึ่งปัจจุบันวุฒิสมาชิกของพรรครีพับริกันซึ่งเป็นพรรคเดียวกับประธานาธิบดีทรัมป์ในวุฒิสภามีถึง 53 คน เกินครึ่งหนึ่งแล้ว ดังนั้น การถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์จึงไม่น่าจะเป็นไปได้
แต่ก็เกิดปรากฏการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมานี้เอง ที่นิตยสารคริสเตียนซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำก่อตั้งโดยนายบิลลี่ เกรแฮม นักเทศน์ที่โด่งดังที่สุดของพวกอีแวนเจลิคัลผู้ล่วงลับไปแล้ว และลูกชายของเขาคือนายแฟรงคลิน เกรแฮม ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์คนสำคัญได้ตีพิมพ์บทความเรียกร้องให้ถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่ง และกระตุ้นให้บรรดาเหล่าอีแวนเจลิคัลเลิกสนับสนุนทรัมป์ในฐานะประธานาธิบดีอีกต่อไป โดยอ้างว่าการสืบพยานหลักฐานของการอิมพีชเมนต์นั้นปรากฏชัดแจ้งประธานาธิบดีทรัมป์ใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งสิ้น การสืบพยานหลักฐานของการอิมพีชเมนต์ชี้ให้เห็นชัดว่าประธานาธิบดีทรัมป์นั้นแทบจะไม่มีจริยธรรมและศีลธรรมเหลืออยู่เลย ดังนั้น เรียกร้องให้ถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องทำเพื่อแสดงความภักดีพระผู้เป็นเจ้าด้วยการไม่สนับสนุนบุคคลผู้ไร้ซึ่งศีลธรรมเช่นนายโดนัลด์ ทรัมป์
ครับ ! เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากนะครับเพราะว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ พ.ศ.2559 นั้น พวกอีแวนเจลิคัลที่เป็นคนผิวขาวนั้นเลือกทรัมป์ถึง 81% และประมาณกันแบบกว้างๆ ว่า 47% ของประชาชนอเมริกันเป็นชาวอีแวนเจลิคัล โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สนับสนุนทรัมป์ทั้งสิ้นเนื่องจากทรัมป์ประกาศจุดยืนที่ต่อต้านการทำแท้ง และต่อต้านการให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้อย่างแข็งขันนั่นเอง ในขณะที่ฝ่ายพรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายตรงกันข้าม
ใครคือพวกอีแวนเจลิคัล?
พวกอีแวนเจลิคัลคือพวกโปรเตสแตนต์ (คริสเตียนไม่ใช่คริสตัง) ที่ต้องการเที่ยวไปประกาศประวัติและความรักของพระเยซูคริสต์ให้กับคนทุกผู้ทุกเหล่าได้ทราบ มีลักษณะคล้ายกับพวกมิชชันนารี พวกอีแวนเจลิคัลจะยึดถือคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลักในการตีความและอ้างอิงในทุกสิ่ง มีศรัทธาแรงกล้าว่าพระเยซูคริสต์ตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปให้มนุษยชาติ และถือการเป็นคริสเตียนไม่ไช่เป็นเรื่องพิธีกรรมเท่านั้น แต่เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงในจิตใจที่พระเจ้าช่วยให้คนที่อยากทำบาปเปลี่ยนมาเป็นคนที่อยากเชื่อฟังพระเจ้า เรียกว่าการเกิดใหม่ (born again) เป็นคำเปรียบเทียบอธิบายคนที่เชื่อและรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดได้เริ่มต้นชีวิตใหม่โดยการเป็นคริสเตียนนั้นต้องเป็นคนซื่อสัตย์มีศีลธรรม รักและศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างแรงกล้า
หากบทความในนิตยสารคริสเตียนเกิดกระตุ้นให้เหล่าอีแวนเจลิคัลส่วนใหญ่หันมาต่อต้านประธานาธิบดีทรัมป์จริงแล้ว ก็อาจทำให้วุฒิสมาชิกของพรรครีพับริกันต้องเปลี่ยนใจลงคะแนนเสียงถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ในวุฒิสภาก็เป็นได้ เนื่องจากฐานเสียงของพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ก็คือพวกอีแวนเจลิคัลนั่นเอง
