เดินหน้าชน : ระวัง‘ไล่ลุง’รายวัน : โดย สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา

ปี2563 นี้ ดูเหมือนว่าเป็นปีที่หนักหนาสาหัสอีกปีสำหรับคนไทย

โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้ง กำลังส่งสัญญาณว่ามาเร็วและแรงกว่าที่คาด

ผลกระทบจากภัยแล้ง จะลุกลามไปเป็นปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย

บรรดาเกษตรกร ผู้ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ จะเดือดร้อนอย่างหนัก กระทบต่อเนื่องไปถึงภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อีกจำนวนมาก

Advertisement

เป็นการซ้ำเติมผลกระทบจากปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ถึงขั้นลดกำลังการผลิต ปิดกิจการ เลิกจ้างแรงงานไปแล้วจำนวนมาก เพราะเครื่องยนต์ของไทยในเรื่องการส่งออก ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกต่อไป

แถมปัญหาภัยแล้งยังบานปลายกลายเป็นปัญหาขาดน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค เรื่องใหญ่ที่ไม่มีใครคาดคิด อาจต่อเนื่องไปจนกระทบต่อปัญหาสุขภาพ เพราะน้ำใช้ดื่มกินเจอปัญหาความเค็มสูง จากน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นไปถึงแหล่งน้ำจืด

แม้ว่ากรมชลประทานได้ตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจแก้ไข และบรรเทาวิกฤตภัยแล้ง ปี 2562/63 โดยมี นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานอำนวยการ มีอำนาจหน้าที่ เป็นศูนย์บัญชาการ ประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ แก้ไขและบรรเทาวิกฤตอย่างมีประสิทธิภาพ

Advertisement

ถึงขั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี จะลงมาเป็นผู้บัญชาการอำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำ และกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ทำหน้าที่ประสานงานการแก้ไขปัญหา และจะมาอำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำด้วยตัวเองเป็นการชั่วคราว จนกว่าปัญหาวิกฤตน้ำจะพ้นไป

แต่ดูเหมือนการแก้ปัญหายังไม่ฉับไวทันกับสถานการณ์ของปัญหาที่กำลังลุกลามรุนแรงไปอย่างรวดเร็ว

เพราะขณะนี้ผลกระทบจากภัยแล้งแผ่ขยายเป็นวงกว้าง พืชผลเกษตร โดยเฉพาะข้าวและพืชหลักอื่นๆ ส่งสัญญาณมาแล้วว่า มีโอกาสเกิดสถานการณ์ข้าวราคาแพง แต่ชาวนาไม่มีข้าวขาย แถมอาจไม่มีข้าวกินด้วยซ้ำ

ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งสปีดการแก้ปัญหามากกว่านี้ สั่งการให้ทุกหน่วยงานเดินเครื่องเต็มที่

แนวคิดไหนดี ไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายค้านหรือรัฐบาล อย่าไปปิดกั้นว่าเป็นไอเดียรัฐบาลเก่าหรือไม่ ถ้าเห็นว่าดี หยิบเอามาใช้เลย เพราะการแก้ปัญหาที่ผ่านมาไม่ได้ผล

อย่าไปทำ “หน้าบาง” กลัวครหาว่าเอาความคิดของคนอื่นมาใช้ เพราะรัฐบาลนี้เองก็ไปเอาของคนอื่นมา หลายเรื่องอยู่แล้ว

ปัญหานี้เป็นของทุกคน ได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มการเมืองใดกลุ่มหนึ่ง จึงต้องร่วมแรงร่วมใจช่วยกันแก้ปัญหา

ที่สำคัญจะต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่ของบประมาณขุดบ่อบาดาลหรือทำฝนเทียม

ควรจะเน้นเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ปัญหาทั้งน้ำแล้งน้ำท่วม วงจรอุบาทว์ ปัญหาซ้ำซากของประเทศไทยที่มีมาช้านาน สร้างความเดือดร้อนไม่รู้จักจบสิ้น

ลองย้อนไปดูง่ายๆ ว่า ช่วงไม่กี่ปีมานี้ บ้านเราเกิดอุทกภัยกับภัยแล้งมาแล้วกี่ครั้งกี่หน เสียหายไปแล้วเท่าไหร่ ใช้งบประมาณแก้ปัญหาไปมากน้อยแค่ไหน แต่ปัญหาก็กลับมาเกิดซ้ำซากทุกปี
แถมระยะหลังเกิดหนักและถี่ขึ้น ทำไมเวลาน้ำมากไม่หาทางเก็บกักน้ำไว้ เวลาน้ำน้อยค่อยเอามาใช้

ดังนั้น ถ้ายังปล่อยให้ปัญหารุนแรงซ้ำซากเกิดขึ้นอีก จะสะท้อนให้เห็นถึงฝีมือการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลอย่างชัดเจน

ก็ไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลแบบนี้ไปเพื่ออะไร ยิ่งอยู่ประชาชนยิ่งเดือดร้อน

ตอนนี้ยังพอมีเวลาแก้ไข ขอให้รีบลงมืออย่างเต็มที่ อย่าย่ามใจว่ารัฐบาลแข็งแกร่ง มี “แบ็กอัพ” ดี แล้วยังไงก็จะอยู่ยาว

หากประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาลยิ่งอยู่ยิ่งแย่ ยิ่งอยู่ยิ่งอดอยาก ระวังรัฐบาลนี้จะจบไม่สวย เพราะประชาชนอาจจะเหลืออด

อาจเกิดรายการ “วิ่งไล่ลุง” หรือ “เดินไล่ลุง” กันรายวันเลยทีเดียวก็เป็นได้ “รัฐบาลลุงตู่” จะไหวมั้ย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image