บทนำมติชน : แก้ฝุ่นต้องยั่งยืน

ปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 เข้าสู่สภาพวิกฤตหนักเมื่อวันที่ 20-21 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยปริมาณฝุ่นเกินมาตรฐานในทุกเขตของ กทม. เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอย่างหนัก รวมถึงการให้สัมภาษณ์ของบุคคลสำคัญในลักษณะที่เห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทำให้การประชุม ครม.สัญจรที่นราธิวาสเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ครม.เห็นชอบ 12 มาตรการแก้ปัญหา โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้มีความเห็นว่าเรื่องฝุ่นเป็นเรื่องปกติ ไม่เคยคิดว่าจะไม่ให้ความสำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

มาตรการ 12 ข้อ ได้แก่ 1.ขยายเขตจำกัดรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ จากวงแหวนรัชดาภิเษก เป็นวงแหวนกาญจนาภิเษก 2.ห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯในวันคี่ ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 63 3.ตรวจวัดควันดำรถโดยสารทุกคันทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ 4.กรมการขนส่งทางบกร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจรตรวจสอบ ตรวจจับรถควันดำ 5.ตรวจสอบโรงงานที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานให้สั่งปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือสั่งหยุดประกอบกิจการ 6.กำกับให้การก่อสร้างรถไฟฟ้าและอื่นๆ ไม่ทำให้เกิดฝุ่นและปัญหาการจราจร 7.ไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8.จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควบคุมการเผาในที่โล่ง เข้มงวดควบคุมยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง 9.ลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปริมาณกำมะถันไม่เกิน 10 PPM 10.ลดใช้รถยนต์ส่วนตัว รถยนต์ราชการต้องผ่านมาตรฐานควันดำทุกคัน 11.สนับสนุนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ดีเซลที่มีอายุเกิน 5 ปี และ 12.สร้างการรับรู้และเข้าใจแก่ประชาชน เกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละออง

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการจาก กทม. ให้โรงเรียนใน กทม. 437 แห่งหยุดเรียน และข้อเสนอจากหน่วยงานให้เหลื่อมเวลาทำงานจาก 08.00-16.00 น. เป็นเวลา 10.00-18.00 น. เพื่อลดความหนาแน่นการจราจรในช่วงเช้า นอกจากนี้ยังมีแนวคิดให้ทำงานที่บ้านทั้งภาครัฐหรือเอกชน ซึ่งหากดำเนินการจริง น่าจะมีส่วนช่วยลดฝุ่นละอองได้มาก ประเด็นสำคัญที่สุดที่รัฐบาลต้องพิจารณา คือ ทำอย่างไรจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ที่ส่งผลอย่างยั่งยืน เพื่อสังคมที่ไร้การคุกคามจากฝุ่นละอองในระยะยาว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image