สถานีคิดเลขที่ 12 : ประเทศเฟคนิวส์!? : โดย จำลอง ดอกปิก

สถานีคิดเลขที่ 12 : ประเทศเฟคนิวส์!? : โดย จำลอง ดอกปิก

สถานีคิดเลขที่ 12 : ประเทศเฟคนิวส์!? : โดย จำลอง ดอกปิก

โคโรนาไวรัส โรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาด เขย่าขวัญมวลมนุษย์อยู่ในขณะนี้

ส่งผลกระทบหลายระดับ

เฉพาะหน้าโดยตรง คือผลต่อสุขภาพ มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากและเสียชีวิตร่วม 200 คน ในมหานครอู่ฮั่น ศูนย์กลางโรคอุบัติใหม่และเมืองใกล้เคียงของจีนแผ่นดินใหญ่

Advertisement

ประเทศไทยได้รับผลกระทบเช่นกัน

เนื่องจากเป็นหนึ่งในประเทศ/เมืองปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีน พบผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศทั้งที่รักษาหายแล้ว และอยู่ระหว่างรักษากว่า 10 คน

ทั้งนี้ มีรายงานตัวเลขคนจีนตกค้างอยู่ในประเทศไทยอย่างน้อย 2 หมื่นคน

Advertisement

ขณะที่ทางการไทยมีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารผ่านทางสนามบินทุกคน และคัดกรองแบบจำเพาะเจาะจงผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาด นอกจากนี้ยังอาจมีมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม

เพื่อสกัดกั้น ระงับยับยั้งไวรัสมรณะ มิให้แพร่ระบาดในประเทศไทย

โคโรนาไวรัสสร้างความตื่นตระหนกให้แก่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

ที่เป็นวาระเร่งด่วน ท้าทายองค์การอนามัยโลก และการจัดการของประเทศต่างๆ ขณะนี้ แน่นอนคือความสามารถในการรับมือ แก้ปัญหา หยุดไวรัสร้ายให้ได้ในเร็ววัน

เนื่องจากสุขภาพ-ชีวิตมนุษย์นั้นสำคัญ

แต่ไม่เพียงเท่านั้น ในระยะถัดไปยังมีเรื่องที่ต้องสะสาง แก้ปัญหา ผลกระทบตกค้าง จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ

การท่องเที่ยวกลายเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

ในภาวะที่เครื่องยนต์ตัวอื่นมีปัญหา ทั้งส่งออก การบริโภคภาครัฐภาคเอกชน การลงทุน

แต่การท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำแก่ประเทศไทย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของจีดีพี โดยนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวเมืองไทยเป็นอันดับ 1 หลายปีติดต่อกัน

ปี 2562 ที่ผ่านมา ก็ทำสถิติทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ ด้วยสถิติ 11 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปีก่อน คิดเป็น 28% ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย รวม 39.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.2%

กล่าวสำหรับประเทศไทย การแพร่ระบาดจะเป็นบททดสอบสำคัญว่า ประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพอันดับ 6 ของโลก “ระบบสาธารณสุขเข้มแข็ง หรืออ่อนแอเพียงไร”

ทดสอบฝีมือรัฐบาล เรื่องการจัดการแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ หรืออ่อนด้อย

อ่อนหัดแทบทุกเรื่อง

คำตอบคงมีออกมาในไม่ช้า

แต่จะว่าไปแล้ว ในท่ามกลางเครื่องหมายคำถามเรื่องน้ำยา ทุกฝ่ายกลับเอาใจช่วยรัฐบาลเต็มที่เหมือนกับที่เอาใจช่วยจีน และทุกประเทศที่เผชิญการแพร่ระบาด ให้แก้ปัญหานี้ให้ได้โดยเร็ว

เนื่องจากเป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ ทรัพยากรที่มีคุณค่า

แต่นั่นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ได้ด้วยการภาวนา บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย รอฟ้ารอฝนชะโลมแล้ง ชะล้างฝุ่นพิษ หากแต่ต้องลงมือแก้จริงจัง อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ วิทยาการ

ตามแนวทางองค์การอนามัยโลก และองค์ความรู้ใหม่ๆ ของแต่ละประเทศ

ส่วนผลกระทบในระยะถัดไปเมื่อเอาไวรัสอยู่

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุทำนองว่า ปัญหาไวรัสโคโรนาเป็นปัจจัยใหม่ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจไทย เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

จากเดิมประเทศอมโรค ร่างจะพังมิพังแหล่อยู่แล้ว

ได้รับผลกระทบทั้งจากวิกฤตฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ภัยแล้ง เงินบาทแข็งค่าซ้ำเติมส่งออก และปัญหางบประมาณปี 2563 ล่าช้า ซ้ำร้ายยังเผชิญปัญหาไวรัส

งานเข้า 5 วิกฤตเต็มๆ…

ลำพังเรื่องเดียวซ้ำซาก พื้นๆ แล้ง-ฝุ่น การรับมือ คลี่คลายปัญหา ยังถูกตั้งคำถาม

จะว่าประเทศไม่มีรัฐบาลก็หามิได้

แต่กลับวังเวงชอบกล

ยิ่งวิกฤตมาก วิกฤตใหญ่ ก็ยิ่งรู้สึกอ้างว้าง วังเวง

จะมีใครคลี่คลาย แก้ไขบรรเทา ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้หรือไม่

รู้สึกคล้ายประเทศไทยมีรัฐบาล เป็นเรื่องเฟคนิวส์

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image