| ผู้เขียน | สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา |
|---|
ดูเหมือนการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากเมืองอู่ฮั่น จะทำให้หลายคนตื่นตระหนก จนถึงขั้นเกิดความเครียด เมื่อได้รับรู้ข่าวความเคลื่อนไหวของโรคนี้ในแต่ละวัน พบว่ายิ่งมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนจะมีการคิดค้นวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ได้สำเร็จ บรรดาผู้เสพข่าวและประชาชนทั่วไป ควรหาทางสร้างภูมิคุ้มกันในแง่ของการรับรู้ข่าวสารและการปฏิบัติตัว เพื่อให้ปลอดภัยจากความเครียดและป้องกันการติดเชื้อ ให้ได้ก่อน
มีข้อแนะนำจาก ศ.นพ.ยง กู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ระบุข้อเท็จจริงของโรคปอดอักเสบ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ว่า ผู้ป่วยกลุ่มแรกที่พบส่วนใหญ่มีแหล่งสัมผัสจากตลาดสดที่มีการขายอาหารทะเลและสัตว์ที่ยังมีชีวิต
เป็นโรคอุบัติใหม่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ทุกคนจึงมีสิทธิติดเชื้อได้หากสัมผัสเชื้อโรค ความรุนแรงของโรคจะเพิ่มขึ้นตามอายุ ในเด็กความรุนแรงของโรคจะน้อยกว่าในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
อาการต้องสงสัยคือ เป็นผู้มาจากแหล่งระบาดของโรค ร่วมกับมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก รายที่รุนแรง จะมีปอดอักเสบเกิดขึ้น และทำให้ระบบหายใจล้มเหลวถึงกับเสียชีวิตได้
ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อมีระยะฟักตัวประมาณ 2-7 วัน การเฝ้าสังเกตอาการหลังสัมผัสโรค หรือมาจากแหล่งระบาดของโรค คือ 14 วัน สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้ จึงเกิดการแพร่กระจายได้
แต่โรคนี้มีความรุนแรงของโรคน้อยกว่าโรคเมอร์สและโรคซาร์ส มีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 30% และ 10% ตามลำดับ ขณะที่โคโรนาอยู่ที่น้อยกว่า 3%
ศ.นพ.ยงยังบอกอีกว่า มีการยืนยันผลการวินิจฉัยด้วยการตรวจหาพันธุกรรมของไวรัสในห้องปฏิบัติการ อาจมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากยังไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อย ดังนั้นผู้ป่วยจึงสามารถเดินทางไปได้ไกลและแพร่โรค ทำให้เกิดการระบาดในวงกว้างได้ทั่วโลก
โคโรนาสายพันธุ์นี้ เป็นไวรัสทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบ มีได้ทั้งแบบไม่มีอาการและมีอาการ ทางเดินหายใจอักเสบแบบเฉียบพลัน จนถึงปอดอักเสบและโรคแทรกซ้อน เป็นโรคติดต่อโดยการสัมผัสฝุ่นละออง มีความรุนแรงน้อย แต่จะกระจายได้มาก ในปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสในการรักษา และไม่มีวัคซีนในการป้องกัน
การป้องกันที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย รวมถึง “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” เป็นวิธีการป้องกันโรคที่ติดต่อทางฝุ่นละออง
การเดินสวนกันไปมาไม่ทำให้ติดโรค แต่การอยู่ในระยะใกล้ มีการพูดคุย หรือมีการจาม และมีฝุ่นละอองกระเด็นมาถูกบริเวณใบหน้า ทำให้ติดโรคได้ ดังนั้นผู้เป็นโรคทางเดินหายใจทุกคนควรใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค สำหรับคนปกติถ้าต้องการป้องกันโรคสามารถใช้หน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง โดยสวมให้แน่นไม่มีลมเข้าด้านข้าง
มีข้อแนะนำสำหรับคนทั่วไป ในภาวะปกติโรคยังไม่ระบาด ควรดำเนินชีวิตแบบปกติ รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
ที่สำคัญอย่าตื่นตระหนกกับการแพร่ระบาด เช็กข้อมูลก่อนเชื่อ หรือแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ และจำเป็นต้องตระหนักถึงวิธีปฏิบัติที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญแนะนำอย่างเคร่งครัด
พูดง่ายๆ ควรตระหนัก แต่อย่าตระหนก รู้เท่าทันและอย่าตื่นกลัวจนเกินเหตุ เพราะเชื่อว่าโรคระบาดเช่นนี้ คงไม่ได้เกิดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ดังนั้น การรู้เท่าทัน อย่าประมาทในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสหรือแม้แต่ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ก็น่าจะช่วยป้องกันได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งก็ตาม
