สถานีคิดเลขที่ 12 : ก.พ.ร้อน? : โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข

เป็นอันว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและ รมต. รวม 6 คน จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 13.30 น. ของวันจันทร์ที่ 24 ก.พ. จนถึงวันที่ 26 ก.พ. แล้วเว้นไว้ 1 วัน

กำหนดลงมติไม่ไว้วางใจหรือไว้วางใจ ในวันพฤหัสฯ 27 ก.พ. แต่ถ้าการอภิปรายไม่จบใน 3 วัน จะขยายเวลาอภิปรายถึง 27 ก.พ. และไปลงมติในวันที่ 28 ก.พ. จากนั้นวันที่ 29 ก.พ. สภาจะปิดสมัยประชุมฯ

6 รมต. ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ

ทำไมต้อง 6 คนนี้ ฝ่ายค้านอธิบายแล้วว่า ต้องการโฟกัสที่กลุ่มซึ่งยึดโยงมาจากการยึดอำนาจ และสืบทอดอำนาจต่อมา

Advertisement

ประเด็นอภิปรายส่วนมากเป็นเรื่องของพฤติกรรมการบริหารงานและพฤติกรรมทางการเมือง

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นอีกเรื่องที่หายไปจากการเมืองไทย หลังจากเกิดรัฐประหารเมื่อปี 2557

ครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ย. 2556 ฝ่ายค้านขณะนั้น นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ขณะนั้น และ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย

Advertisement

ก่อนจะลงเอยด้วยการที่สภาลงมติไว้วางใจ หลังจากนั้นสถานการณ์วุ่นวายปั่นป่วนจนลงเอยด้วยการล้มกระดานในที่สุด

ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจถือเป็นมาตรการตรวจสอบขั้นสูงสุดของระบบรัฐสภา

มีการอภิปราย และโหวต หากผลคะแนนไม่ไว้วางใจสูงตามเกณฑ์ ครม. หรือผู้ที่สภาไม่ไว้วางใจจะต้องตกเก้าอี้ เก็บของกลับบ้านไป

เนื้อหาต่างๆ จึงต้องหนักแน่น ชี้ข้อผิดพลาดไม่เหมาะสมให้ชัดเจน เพราะจะต้องนำไปสู่การลงมติของสภาว่าจะไว้วางใจให้ทำงานต่อหรือไม่ จะมาอวยกันหวานๆ คงไม่ใช่ญัตติไม่ไว้วางใจ

การที่เว้นว่างห่างหายไปถึง 5-6 ปี เพราะมีรัฐประหาร เท่ากับเราปล่อยให้มีฝ่ายบริหารที่ใช้อำนาจใช้งบประมาณโดยไม่มีการตรวจสอบ ที่จริงไม่ใช่เรื่องที่ควรจะให้เกิดขึ้น แต่ก็เกิดขึ้นไปแล้วในบ้านเมืองของเรา

และช่องว่าง 5-6 ปี ก็มีผลต่อการรับรู้ของคนทั่วไป

เมื่อกลับมาอีกครั้ง จึงเป็นเรื่องที่สังคมควรติดตาม เพื่อรับทราบว่าผลการทำงานของรัฐบาลในทรรศนะของฝ่ายตรวจสอบ เป็นอย่างไร สอบได้หรือสอบตก

รอบนี้มีปมน่าตื่นเต้น คือเนื้อหาญัตติที่ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่ารุนแรงเกินเหตุ อาจจะต้องไปปะทะกันในสภาต่อไป

และล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญนัดหมายวินิจฉัยคดีกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 ก.พ.

สำหรับพรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคฝ่ายค้านลำดับ 2 รองจากพรรคเพื่อไทย และมีบทบาทสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้

การเมืองไทยจะเดินทางผ่านเดือน ก.พ. 2563 ไปยังไง ต้องจับตาดูกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image