| ผู้เขียน | ธีรเวทย์ ประมวญรัฐการ |
|---|
กลางเดือนมกราคม 2563 ทั้งโลกเริ่มแสดงความวิตกกับชะตากรรมของชาวจีนในเมืองอู่ฮั่นที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและมีรายงานการเสียชีวิตรายแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 (นับถึง 31 มกราคม ทั้งประเทศจีน 213 ราย) เป็นคนไข้ 9,953 ราย (วิกิพีเดีย)
มีรายงานด้วยว่าชาวเมืองอู่ฮั่นพากันอพยพหนีตายออกมากระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ในจีนเกือบ 5 ล้านคน
นายสีจิ้นผิงออกคำสั่งห้ามบริษัททัวร์นำคนจีนออกนอกประเทศในเทศกาลตรุษจีนเด็ดขาด แต่กระนั้นกว่า 5 หมื่นคนได้หลุดออกไปก่อน ซึ่งถือว่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรที่อพยพออกจากอู่ฮั่นคิดเป็น .01% เท่านั้น แต่ที่น่าสนใจคือในจำนวนคนจีนที่ออกมาเป็นนักท่องเที่ยวนั้น 2 หมื่น มาเที่ยวในไทย และนี่คือสัดส่วนสูงที่สุด รองลงนับได้เป็นหลักพันต้นๆ หลักร้อย ที่สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน ในแง่นี้ไทยมีอัตราเสี่ยงสูงมากกับการมีคนจีนเข้ามาเป็นพาหะของไวรัสโคโรนา
หลังจากรัฐบาลของประเทศต่างๆ ที่มีประชาชนติดอยู่ที่เมืองอู่ฮั่นเร่งประสานงานกับทางการจีนเพื่อเตรียมขนคนออก หลังจากมีรายงานเสียชีวิตรายแรก เที่ยวบินแรกที่ออกจากสนามบินอู่ฮั่นเป็นของญี่ปุ่น (ANA) ที่รับผู้ติดค้างกว่า 600 คนในอู่ฮั่นออกมา ตามด้วยของสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ เยอรมัน ระหว่างวันที่ 28-29 มกราคม 2563
ในส่วนของรัฐบาลไทยที่ดูเป็นชิ้นเป็นอันคือผลการประชุม ครม. เมื่อวันอังคารที่ 28 มกราคม 2563 ที่มีมติแต่งตั้ง “คณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคอุบัติใหม่แห่งชาติ”
ก่อนหน้านั้น แม้นายกรัฐมนตรีจะบอกว่ามีการเตรียมรับมือมาก่อนเป็นเดือน แต่ที่เห็นเป็นรูปธรรมคือคำมั่นจาก พล.อ.ประยุทธ์ว่า “รอให้จีนเปิดไฟเขียวเมื่อไร ไทยมีเครื่องบินซี-130 พร้อมไปรับคนไทยจากอู่ฮั่นกลับบ้านทุกเมื่อ” ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศ “ดอน” พูดว่า “คนไทยที่อู่ฮั่นสบายดี”
ท่าทีของรัฐบาลไทยดูสวนทางข่าวสารผ่านคนไทยที่เมืองอู่ฮั่นที่บอกว่า ส่วนใหญ่หรือทุกคนอยากกลับบ้าน เมืองอู่ฮั่นกำลังเป็นเมืองร้าง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกขนส่งสาธารณะเป็นอัมพาตแล้ว ร้านรวงพากันปิดเกือบหมด นักเรียนไทยรายหนึ่งรำพึงว่า “ไม่รู้ว่าเมื่อถึงวันที่รัฐบาลไทยมารับ อาจได้แต่กระดูกพวกเรากลับไป!”
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความพร้อมยังดูสับสน เพราะน่าเชื่อว่าจีนจะไม่อนุญาตให้ประเทศใดใช้เครื่องบินทหารมาผ่านเข้าน่านฟ้าเพื่อมารับคนออกไปจากเมืองอู่ฮั่นด้วยเหตุผลความมั่นคง!
จึงน่าเสียดายโอกาสที่คนไทยในอู่ฮั่นควรจะได้กลับบ้านหนีวิกฤตไปนานแล้ว อาจได้กลับก่อนคนญี่ปุ่น (ที่ปกติมีสัมพันธภาพกับจีนไม่ดีสักเท่าไร เมื่อเทียบกับไทย) อย่างไรก็ดี มีข่าวว่า Air Asia จะไปรับไม่เกิน 4 ก.พ. 63
ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขแถลงเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 ว่าพบโชเฟอร์แท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาแบบคนต่อคนเป็นรายแรก เจ้าตัวไม่เคยไปเมืองจีน ดีที่แพทย์ไทยเอาอยู่ และบอกให้กลับบ้านไปแล้ว
อดนึกถึงนักท่องเที่ยวจีน 2 หมื่นคนที่เข้าไทยในช่วงตรุษจีน และผ่านระยะฟักตัว 14 วันของไวรัสโคโรนาไปแล้ว!
ขอภาวนาให้กรณีนี้เป็นรายสุดท้าย เพราะไม่อยากเห็นเมืองไทยเป็น “อู่ฮั่น สาขา 2”
