คอลัมน์หน้า 3 : โฉมใหม่ มิติใหม่ มิติ คณะ ‘อนาคตใหม่’ ของ ธนาธร จึงฯ

พลันที่มีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ผลก็คือ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ

ทรงความสำคัญโดยอัตโนมัติ

ถามว่าทำไมศาลรัฐธรรมนูญจึงต้องอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ คำตอบมีมากมายแล้วแต่จะมีเซลล์สมองระดับใด

แต่ที่แน่ๆ ก็คือ 3 วันก่อน “อภิปราย”

Advertisement

แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เมื่อสัมผัสท่าทีจากพรรคพลังประชารัฐ ท่าทีจากพันธมิตรของพรรคพลังประชารัฐก็จะได้คำตอบ

นั่นก็คือ ข้อคาดหมายที่จะเกิดอาการ “ผึ้งแตกรัง”

นั่นคือ ความสบายใจขึ้นมาในระดับอันแน่นอนหนึ่งว่า ความร้อนแรงจากพรรคอนาคตใหม่ในการอภิปรายทั่วไปจะต้องลดระดับลง

Advertisement

จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ

พรรคอนาคตใหม่เผชิญประสบกับข้อคาดหมายนี้มาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการตระเตรียมทุกอย่างตามโปรเจ็กต์ “พินอคคิโอ”

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 กระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2563

แม้ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะนั่งเป็นประธานของ “โปรเจ็กต์” แต่ทุกอย่างก็ดำเนินไปในกระสวนเดียวกันกับก่อนอภิปราย “งบประมาณ”

เป็นเรื่องของ “ทีม” เป็นเรื่องของ “ระบบ”

ระบบที่เมื่อตกไปอยู่การบริหารจัดการของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ภายใต้การกำกับของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ก็เรียบร้อยในแบบของ “อนาคตใหม่”

ประเด็นอยู่ที่ว่าจะสามารถรักษา ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ให้อยู่ในแถว หรืออย่างน้อยที่สุดด้านหลักยังเป็นเหมือนกับพรรคอนาคตใหม่ในอดีตได้อย่างไร

นั่นก็คือ แผนตัดสถานการณ์ “ผึ้งแตกรัง”

สถานการณ์หลังคำวินิจฉัยยุบพรรคปรากฏได้นำไปสู่ปรากฏการณ์ทางการเมืองซึ่งคล้ายกับ “แม่น้ำแยกสายไผ่แตกกอ” ขึ้นมาโดยพลัน

1 มีความจำเป็นต้องเดินหน้าไปหาพรรคใหม่

เด่นชัดแล้วว่า มีการมอบเข็มของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ด้วยมือของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เอง

เท่ากับเป็นการสื่อไปยัง “ชาวอนาคตใหม่”

ขณะเดียวกัน 1 มีการประกาศจัดตั้ง “คณะอนาคตใหม่” ขึ้นโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล

งานชิ้นแรกคือ การอภิปราย “นอกสภา”

หากประเมินจากบทบาทของแต่ละ “ศูนย์คณะอนาคตใหม่” ในแต่ละจังหวัดไม่ว่าจะเป็นที่อุตรดิตถ์ ไม่ว่าจะเป็นที่สงขลา ไม่ว่าจะเป็นที่สุรินทร์ ไม่ว่าจะเป็นที่นครปฐม

เห็นได้ชัดว่ายังร้องเพลงเดียวกัน คีย์ไม่ได้ผิดเพี้ยน

อย่าได้แปลกใจหากจะเห็นบทบาทของอีกฝ่าย นั่นก็คือ การรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้บรรดา 11 กรรมการบริหารพรรคเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว

อย่างแรกสุดก็คือ การเพิ่ม “คดี” เข้าให้

เมื่อประสานกับคดีเดิมที่แบกรับมาตั้งแต่ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มีความเป็นไปได้ว่าอาจทะลุหลัก 30

นั่นถือว่าเป็น “กรรมเก่า”

ขณะเดียวกัน ไม่ว่าการเดินสาย “นอกสภา” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็ไม่น่าจะเป็นไปโดยราบรื่น

ไม่ราบรื่นเหมือนน้องๆ ที่จะทำ FLASH MOB

การเมืองก็เป็นเช่นนี้เอง ไม่ว่าเมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นั่งเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าเมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

เป็นการเมืองกับ “คนหน้าเดิม”

เพียงแต่ว่า ณ วันนี้ ไม่ว่าจะมองผ่านการเมืองในรัฐสภา ไม่ว่าจะมองผ่านการเมืองนอกรัฐสภา ใช่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะดำเนินไปด้วยความโดดเดี่ยว เดียวดาย

ตรงกันข้าม คณะอนาคตใหม่ คึกคักอย่างยิ่ง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image