เดินหน้าชน : คัมภีร์สู้‘โควิด’ : โดย สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา

ดูเหมือนว่าการแพร่ระบาด ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลกระทบทางจิตใจของผู้คนออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว

กลายเป็นความหวาดกลัว ตื่นตระหนก หวาดวิตก และอาจจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพของหลายๆ คนตามมาในอนาคตได้ไม่น้อย

ใครคิดว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดอยู่ในข่ายนี้ ลองฟังคำแนะนำจาก ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ราชบัณฑิตและหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงสถานการณ์โควิด-19 กับผลทางจิตใจ

คุณหมอบอกว่า “ทุกครั้งที่มีโรคอุบัติใหม่และองค์ความรู้ยังไม่มาก ทุกคนจะเกิดความกลัว โดยเฉพาะในปัจจุบัน มีสื่อสังคมเข้ามามากมายข้อมูลที่เกิดขึ้นจะประกอบไปด้วยความจริง 20% และเติมด้วยความเห็น ความเห็นที่เติมเข้าไปก็ขึ้นอยู่กับผู้เติม ในแง่บวกหรือลบ ก็ได้

Advertisement

สิ่งที่สำคัญในการเสพสื่อเราต้องแยกความจริงและความเห็น ภาพของโรค ทำให้ถูกมองว่าเป็นโรคร้าย และบางครั้งมองดูเหมือนใกล้ตัว บุคลากรทางการแพทย์จะยิ่งใกล้ตัวเข้าไปใหญ่ การกักให้อยู่บ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของโรค ประกอบกับความกลัว จะมีผลทางจิตใจค่อนข้างมาก

ในสมัย MERS (เมอร์ส) ระบาด มีการศึกษาผลทางจิตใจ ในผู้สัมผัสโรค ก็จะพบคล้ายกับ post traumatic stress (โพสต์ เทราเมติก สเตรส) คือมีอาการตื่นตัว สะดุ้ง ตกใจ ไม่มีสมาธิ เครียดง่ายกับเรื่องธรรมดา

ในขณะนี้หลายคน ถึงแม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่การเสพสื่อ หรือรับรู้สื่ออย่างมาก ก็จะทำให้เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ ผลที่เกิดขึ้นก็จะคล้ายกับ post traumatic stress มีอาการนอนไม่หลับ หวาดกลัว ตื่นตัว สะดุ้ง ไม่มีสมาธิในการทำงาน เครียดง่าย เมื่อมองดูแล้ว อาการดังกล่าวในภาพรวม จะเป็นปัญหาต่อสุขภาพ และจะต้องถูกคำนึง มากกว่าโรคโควิด-19 ในขณะนี้เสียอีก

ดังนั้น ทางออกที่เป็นไปได้ ถ้ารู้ตัวว่ามีอาการดังกล่าว ขอให้ลดในการเสพสื่อ เรียนรู้ แยกความจริงกับความเห็น ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ดูแลร่างกายให้แข็งแรงให้มีสติ ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ตามคำแนะนำของทางสาธารณสุข และผู้ที่รู้จริงเท่านั้น”

ได้ฟัง ศ.นพ.ยง แนะนำแบบนี้ ทำให้นึกถึงความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งบอกไว้ว่า

เชื้อไวรัส ก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง มันก็มีสัญชาตญาณเอาตัวรอด พัฒนาตัวเองสู้กับอุปสรรคต่างๆ ไปเรื่อยๆ เหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

ดังนั้น อย่าคิดว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แล้วเจ้าไวรัสนี้จะไม่กลับมาอีก

และการกลับมาครั้งหน้าของมันก็จะเข้มแข็งและเฉลียวฉลาดกว่าเดิม

จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับมือ ตามคำแนะนำของคุณหมอยง

ดูแลร่างกายให้แข็งแรง ให้มีสติเข้าไว้

สิ่งสำคัญให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากแค่ไหน เราจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image