บทนำ : ออกจาก‘ล็อก’

สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจมาถึงจุดที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง แต่ดูเหมือนการเปลี่ยนแปลงแทบจะเป็นไปไม่ได้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีแนวโน้มเกิดขึ้นช้ากว่าวิบัติหายนะของประเทศ คนไทยอยู่ด้วยความรู้สึกอึดอัด และรู้ว่าต่อจากนี้ไปจะเดือดร้อนกว่านี้อีกมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ รู้ว่ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ เดิมสภาพเศรษฐกิจก็แย่มากอยู่แล้ว แต่ปัญหาโควิด-19 กำลังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งโลกและประเทศไทยและจะส่งผลกระทบมากขึ้นอีก

ท่ามกลางปัญหาต่างๆ นายจาตุรนต์กล่าวว่า เมื่อดูระบบกลไกทางการเมืองที่จะเปลี่ยนรัฐบาล พบว่ายังเป็นไปได้ยากมาก ในรัฐสภา พรรคฝ่ายค้านอ่อนแอลง บ้างถูกยุบ บางพรรคระส่ำระสาย ขณะที่การเคลื่อนไหวของนักศึกษาทั่วประเทศมีศักยภาพและเป็นความหวังของประชาชนว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทางที่ดี แต่ก็ยังต้องอาศัยเวลาที่จะสะสมกำลัง ส่วนปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคือ ประชาชนกลุ่มอาชีพต่างๆ ที่เดือดร้อน แต่ยังไม่กล้าหรือยังไม่มีวิธีแสดงออก

ประเด็นจากนายจาตุรนต์ คือการที่สภาพปัญหาต่างๆ มาถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะ คือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล แต่กฎกติกาปัจจุบันไม่เปิดทาง จะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยิ่งยาก และใช้เวลา ข้อเสนอของนายจาตุรนต์ คือ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันคิดแก้โจทย์พิสดารนี้ หาหนทางออก เพื่อมิให้สถานการณ์เลวร้ายมากไปกว่านี้ และกระทบต่อชีวิตประชาชนและประเทศชาติมากกว่านี้

ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลและน่าจะต้องช่วยกันขบคิด ไม่เฉพาะประชาชนเท่านั้น แต่กลุ่มอำนาจที่ทำให้เกิดสภาพเช่นนี้ขึ้นมาก็ควรทบทวนตัวเองเช่นกัน เพราะสภาพการเมืองในปัจจุบัน เป็นผลจากระบบที่ไม่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมที่ดำเนินมา 6 ปี ใช้คณะบุคคลที่ใกล้ชิดขั้วอำนาจเข้ามาเขียนกฎกติกา ออกแบบหรือดีไซน์การเมืองที่ทำให้เกิดการคุมอำนาจและสืบทอดโดยหมู่คณะ แต่บัดนี้ผลเสียหายได้เกิดขึ้นกับประชาชนในวงกว้าง และคาดว่านับวันจะยิ่งขยายวงออกไป

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image