สื่อออนไลน์เปิดโปงว่า มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล โพสต์ขายหน้ากากอนามัย โดยระบุว่ามีสินค้า 5 ล้านชิ้น ราคาเบาๆ จับต้องได้ 14 บาทต่อชิ้น ใช้ในโรงพยาบาลไม่แบ่งขาย ขายทีละ 1 ล้านชิ้น โชว์การเงิน หรือพานายทุนจีนมาซื้อ นายหน้าไม่ติดทุนไม่ต้องมาเสียเวลา ด่วนๆๆ ราคาไม่แรง หนา 3 ชั้น สินค้าอยู่กับกลุ่มทีมงาน และเมื่อต้นเดือน ก.พ. โพสต์ว่ามีหน้ากากอนามัยในสต๊อก 200 ล้านชิ้น พร้อมทั้งโพสต์สมุดบัญชีที่มีเงินฝากเข้าอย่างต่อเนื่องเป็นกว่าร้อยล้าน รวมทั้งมีภาพเช็คที่มีการสั่งจ่ายเงินจำนวน 14 ล้านบาท
ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า (1) จากการตรวจสอบพบว่าผู้กักตุนและขายหน้ากากอนามัยคือนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับข้าพเจ้า (2) นายพิตตินันท์ รักเอียด เป็นคณะทำงานของข้าพเจ้า ยืนยันกับข้าพเจ้าว่าไปพบกับนายศรสุวีร์ตามคำแนะนำของเพื่อนเพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง ที่โรงแรมแมริออท ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้ซื้อขายหน้ากากอนามัยกันและไม่เคยรู้จักกันกับนายศรสุวีร์มาก่อน (3) เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าได้ขอให้นายพิตตินันท์ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายศรสุวีร์ พร้อมนำหลักฐานการแจ้งความมาแถลงข่าว (4) อนึ่ง นายพิตตินันท์ รักเอียด เคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 สุราษฎร์ธานี พรรคพลังประชารัฐ ได้ขอมาเป็นคณะทำงานของข้าพเจ้าจริง แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พร้อมที่จะให้ความร่วมมือดำเนินคดีกับนายพิตตินันท์ทันที
นอกเหนือจากการดำเนินการของ ร.อ.ธรรมนัส รัฐบาลเองต้องชี้แจงต่อสังคมที่กำลังหวั่นกลัวไวรัสโควิด-19 ขณะที่แพทย์และโรงพยาบาลและประชาชนทั่วไปหาหน้ากากอนามัยมาใช้สอยไม่ได้ หาซื้อตามท้องตลาดไม่ได้ คณะรัฐมนตรีถึงกับต้องประชุมเพื่อหาทางแก้ไข แต่บุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นบุคคลที่เชื่อมโยงกับรัฐมนตรี กลับครอบครองหน้ากากจำนวนมากและได้เงินนับล้านบาทจากการจำหน่าย การแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากทำให้ประชาชนกลัวว่าจะติดเชื้อแล้ว รัฐบาลต้องไม่ทำให้ประชาชนหมดความเชื่อถือการแก้ปัญหาของรัฐบาลไปพร้อมกันด้วย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
