สะพานแห่งกาลเวลา : สู้‘โควิด-19’เริ่มต้นที่ตัวเรา : โดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์

โควิด-19 เล่นงานมนุษย์บนโลกนี้สาหัสนัก ผ่านเดือนที่สามของการแพร่ระบาดมายังไม่ครบเดือน คนไทยก็ติดเชื้อมากถึง 411 คนแล้ว ยอดผู้เสียชีวิตที่อิตาลีพุ่งไม่หยุด เกิน 4,000 คน

ที่น่าอเน็จอนาถก็คือ ระบบสาธารณสุขที่นั่นเกินกำลังรับ หลายคนถูกปล่อยให้นอนรอความตาย

นักสังเกตการณ์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า การที่ระบบปิดเมือง ปิดแคว้น ปิดประเทศ ของอิตาลีไม่ประสบความสำเร็จ เป็นเพราะผู้คนจำนวนหนึ่งขาดวินัย ไม่ยอมรับการถูกจำกัดความเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวดให้อยู่แต่กับบ้าน

บางรายงานข่าวบอกว่า มีผู้ละเมิดถูกจับกุมได้กว่า 5 หมื่นคน ที่จับไม่ได้อีกเท่าใด ไม่มีใครรู้

Advertisement

ย้อนกลับมาที่บ้านเรา กลุ่มก้อนการติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาในระยะหลัง เกิดจากสนามมวย กับสถานบันเทิง คนที่ติดเชื้อใหม่ๆ เกือบทั้งหมดเป็นคนหนุ่มสาว วัยฉกรรจ์ทั้งสิ้น

ถือเป็นบทเรียนให้เราได้ตระหนักว่า โควิด-19 ระบาดได้ไม่เลือกเวลาและสถานที่ ไม่เลือกตัวบุคคล

ยังหนุ่มสาว อาจไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองจนถึงแก่ชีวิต แต่ละคนสามารถเป็น “พาหะ” หยิบยื่นความตายให้กับผู้อื่นได้ตลอดเวลา

Advertisement

เราอาจหยิบยื่นความตายให้กับพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายของผู้อื่น ที่น่าเศร้ามากขึ้นก็คือ เราอาจทำเช่นนั้นกับผู้สูงอายุในครอบครัวเราเอง

ในสหรัฐอเมริกา ครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิก 3 รุ่น 23 คน ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์รวมตัวกันกินดินเนอร์หนึ่งมื้อเมื่อต้นเดือนมีนาคม

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ 4 คน เสียชีวิต อีก 3 คนต้องพึ่งอุปกรณ์พยุงชีพอยู่ในโรงพยาบาล ที่เหลือต้องกักตัวรอดูอาการ

เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในครอบครัวทีเดียวครับ

การดูแลสุขอนามัยของตัวเอง รักษาวินัยในการรักษาระยะห่างทางสังคมตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด จึงไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อคนอื่นๆ โดยรวมเท่านั้น

ยังเป็นการกระทำเพื่อตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก คนในครอบครัวของเราด้วยอีกต่างหาก

อยู่กับบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ รักษาระยะห่างจากคนอื่นๆ พร้อมป้องกันตัวเองทุกครั้งที่จำเป็นต้องออกจากบ้าน งดเว้นการไปชุมนุมกับคนหมู่มาก งดสังสรรค์ สันทนาการ แม้การ “รวมญาติ” ก็ละไว้ชั่วคราว เพื่อสวัสดิภาพของทุกคน

การออกกำลังเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันสำหรับเราก็จริง แต่การไปยิม หรือฟิตเนสเซ็นเตอร์ ไม่ใช่เรื่องฉลาดในยามนี้ เพียงแค่การออกไปเดินนอกบ้าน สัมผัสแสงแดด หรือทำงานบ้านตัดหญ้า ปลูกต้นไม้ กลับจะให้ผลดีกว่า

สำหรับใครก็ตามที่เริ่มแสดงอาการ หรือเคยใกล้ชิด หรือเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่อาจติดโรคอยู่สูง

คำแนะนำของผมก็คือ รีบเปิดเผยตัวให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบให้เร็วที่สุด

ประสบการณ์ในหลายๆ ประเทศ แสดงให้เห็นว่า ยิ่งพบผู้ติดเชื้อเร็วเท่าใด ยิ่งลดการระบาดลงได้มากเท่านั้น

และตัวผู้ติดเชื้อเองยิ่งมีโอกาสที่จะกลับมาฟื้นฟูสภาพได้เหมือนปกติมากขึ้นหากรู้เร็ว มีแพทย์เฝ้าระวังอาการโดยเร็ว

อย่าย่ามใจ คิดแค่ว่า นี่ไม่ใช่ธุระกงการของเรา เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ เรื่องของรัฐบาล

ข้อเท็จจริงที่สะท้อนออกมาจากหลายประเทศก็คือ ไม่ว่ารัฐบาลจะเข้มงวดกวดขันแค่ไหน หากปราศจากความร่วมมือของทุกคน ช่องโหว่ รูรั่วก็เกิดขึ้นจนได้

ตรงกันข้าม ในประเทศที่รัฐบาลไม่ได้เข้มงวดกระไร แต่ทุกคนร่วมมือ ร่วมใจ กำกับตัวเองอย่างเต็มที่

ผลลัพธ์ที่ได้ ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปิดเมือง ปิดแคว้น ปิดประเทศครับ

สถานการณ์ในไทยยังไม่สายที่คนไทยทุกคนจะร่วมมือกันเพื่อสู้ศึกโควิด-19

สู้ด้วยการดูแลตัว ดูแลคนที่เรารัก สู้พร้อมๆ กันทุกคนนี่แหละครับ พลานุภาพมหาศาลนัก

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image