คุณภาพคือความอยู่รอด : อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ : โดย วิฑูรย์ สิมะโชคดี
ว่ากันว่า “ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งความกลัวของมนุษย์ได้”
ที่เป็นเช่นนั้น ก็คงเป็นเพราะ “ความไม่รู้” ของมนุษย์ เพราะถ้าผู้คน “รู้จริง” ในเรื่องที่กลัวแล้ว ความกลัวก็คงจะลดน้อยลง และเมื่อยอมรับความจริงได้ มนุษย์ก็สามารถหาวิธี “ป้องกัน” ไม่ให้สิ่งที่กลัวนั้นเกิดขึ้น อาทิ ความกลัวภูตผีปีศาจ ความกลัวตาย เป็นต้น
เมื่อความมี “สติ” มากขึ้น (จากความตื่นรู้) ความตื่นตระหนกจากความกลัว ก็จะลดลง
เรื่องของการแพร่ระบาดของโรค “COVID-19” ก็เช่นเดียวกัน เราต่างกลัวกันมาก ตื่นตระหนกกันมาก จึงคิดถึงกันแต่เรื่องโรคร้ายนี้ จน (เกือบ) ลืมเรื่องอื่นๆ ไปหมด
ความกลัวได้เพิ่มความตื่นตระหนก เราจึงได้เห็นได้ยินผลกระทบมากมายจากโรคระบาดนี้ ผู้คนประเทศต่างๆ ทั่วโลกแย่งกันซื้อข้าวของ โดยเฉพาะข้าวของประเภทอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภค ส่วนใหญ่ก็หาซื้อของที่จำเป็นต้องไปใช้เองและซื้อเผื่อไว้ใช้วันหลังจนกลายเป็นการกักตุนของ (กรณีของ “ไข่” ซึ่งไม่น่าจะซื้อไปกักตุนได้ เพราะไม่กี่วันไข่ก็เน่าเสียได้ การที่ไข่ขาดตลาด จึงมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ อาจจะเป็นการกักตุนเพื่อขายราคาแพง)
เพราะถ้าเรามีความรู้อย่างชัดเจนและถูกต้องว่า โรคระบาดโควิด-19 มีอาการอย่างไร ร้ายแรงเพียงใด จะต้องป้องกันอย่างไร จะจบลงเมื่อไหร่ ความกลัวของพวกเราก็คงจะลดน้อยลง การดำเนินชีวิตก็คงจะไม่ยุ่งยากและตื่นตระหนกเท่าทุกวันนี้ ดังนั้น สิ่งที่พวกเราทำได้ดีที่สุดในขณะนี้ก็คือ การให้ความร่วมมือในการใช้ “ระยะห่าง” และอยู่บ้านเพื่อลดการติดต่อกัน ตามนโยบายของภาครัฐราชการที่ว่า “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และ “โรคติดต่อ จะไม่ติดต่อ ถ้าเราไม่ติดต่อกัน”
แต่ใน “วิกฤต” มักจะมี “โอกาส” เสมอ
การต้องกักตัวเองเพื่ออยู่ที่บ้านในระยะนี้ ก็มีผลดีมากมาย เพราะจะทำให้เรารู้จัก “ตัวเอง” และ “ความสงบ” มากขึ้น
เมื่อมีโอกาสได้อยู่บ้าน ได้อยู่กับครอบครัวอย่างจริงจังทั้งวันแล้ว แม้หลายคนจะรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่กับที่ โดยไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย ดังนั้น แทนที่เราจะใช้เวลาว่างอยู่เฉยๆ เราก็สามารถเอาเวลาไปทำอย่างอื่นๆ อีกมากมายได้ (เพราะแต่เดิมได้แต่คิดแต่อ้างว่าไม่มีเวลาทำ)
เราสามารถใช้เวลาอยู่บ้าน ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้
(1) การทำ 5 ส. เพื่อจัดระเบียบบ้าน โดยยึดหลักการ 5 ส. (สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ และสร้างนิสัย) คือ ทิ้งของที่ไม่ได้ใช้ หรือของที่ไม่จำเป็นให้หมดไป ให้เหลือเฉพาะของที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น เพื่อจัดหาที่เก็บใหม่ให้เป็นระเบียบ บ้านก็จะเหลือพื้นที่ว่างโล่งเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ นอกจากนี้ เรายังได้ทำความสะอาดห้องนอนหรือสถานที่ที่เป็นส่วนตัวด้วย
(2) ซ่อมบ้าน เพื่อซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนในจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถจะซ่อมหรือทำเองได้
(3) เรียนรู้เพิ่มเติม จากที่ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่รักที่ชอบ เช่น วาดรูป ดนตรี ร้องเพลงคาราโอเกะ ภาษาต่างประเทศ การเขียน คอมพิวเตอร์ เป็นต้น และที่สำคัญยิ่งก็คือ การหามุมสงบเพื่ออ่านหนังสือที่ชอบ
(4) ออกกำลัง เพื่อดูและสุขภาพให้แข็งแรง
(5) พักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อทดแทนส่วนที่ขาดหายไปจากการทำงานหนัก
(6) ทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ และอื่นๆ ได้อีกมากมาย
ทุกวันนี้ เราต้องไม่ประมาท และต้องใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ คือ ต้องร่วมด้วยช่วยกัน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ครับผม!
