สัญญาณจากรัฐบาล สัญญาณเศรษฐกิจตกต่ำ มรสุมใหญ่ ข้างหน้า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. เมื่อวันอังคารที่ 5 พฤษภาคม
ถึงการเดินสายพบปะสมาคมนักธุรกิจต่างๆ ว่า นอกจากขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนาดใหญ่ 20 ราย หรือมากกว่านั้นในระดับรองลงมา
ซึ่งตอบจดหมายมาครบหมดแล้วว่า จะมีมาตรการแผนงานการดูแลพนักงาน ลูกจ้างอย่างไร
แต่ส่วนสำคัญคือ เขาจะร่วมในการฟื้นฟูประเทศด้วย โดยดูในเรื่องเกษตรกร อาชีพในแต่ละจังหวัดไปด้วย
นายกรัฐมนตรีระบุว่า ขอชื่นชมหลายสมาคมธุรกิจที่บอกว่าจะดูแลแรงงานให้ดีที่สุด
แต่สุดแท้แต่สายป่านมีแค่ไหนอย่างไร มีอะไรที่รัฐบาลจะดูแลได้บ้าง
ซึ่งรัฐบาลได้หารือในที่ประชุม ครม. และให้คณะกรรมการพิจารณาเงินกู้เข้าไปดูแลว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมได้หรือไม่
รัฐบาลคาดการณ์ผลกระทบเศรษฐกิจอาจถึง 6 เดือน อาจถึง 9 เดือน
ต้องเตรียมมาตรการไว้รองรับในโอกาสต่อไป หลังจากมีมาตรการเยียวยาไปแล้ว
ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ใช้เงินกู้จำนวนหนึ่ง
ตนต้องการดูว่าสิ่งที่รัฐบาลอนุมัติไปแล้วมีปัญหาอะไรบ้าง
เช่น การเข้าถึง soft loan การดูแลเยียวยาให้สอดคล้องกับระยะเวลาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าควรจะขยายอะไรอย่างไร
เพราะต้องเตรียมแผนล่วงหน้า
เป็นครั้งแรกที่รัฐบาล “ส่งสัญญาณ” ชัดเจนในเรื่องภาวะเศรษฐกิจ
แม้ตัวเลขหรือการคาดการณ์ยังเป็นหัวข้อถกเถียงกันได้
ว่าความตกต่ำที่มาเยือนจะยาวนาน 6 เดือน 9 เดือน หนึ่งปี
หรือนานกว่านั้น
แต่อย่างน้อยการ “ยอมรับความจริง” ย่อมทำให้การกำหนดนโยบายไม่หลุดไปจากทิศทางที่ควรจะเป็น
การยอมรับความจริงแต่เนิ่นๆ ย่อมทำให้การเตรียมตัวออกมาตรการ
ครอบคลุมและทันท่วงที
เพราะเค้าลางพายุเศรษฐกิจที่รออยู่ข้างหน้านั้นเด่นชัดอย่างยิ่ง
ไอเอ็มเอฟหรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้ว่าจะติดลบร้อยละ 3
เป็นการติดลบมากกว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เมื่อ ค.ศ.2008-2009
ปลายเดือนมีนาคม ก่อนมาตรการ “ปิดเมือง” จะส่งผลให้ธุรกรรมทุกอย่างยิ่งชะลอตัว
ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะติดลบที่ร้อยละ 5.3
ล่าสุดบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ ประมาณการว่า เศรษฐกิจจะติดลบร้อยละ 8.4
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์-นักธุรกิจบางกลุ่มประมาณการว่า
เศรษฐกิจจะติดลบไม่น้อยกว่าร้อยละ 10
จากการยอมรับความเป็นจริง
ก้าวต่อไปคือ การกำหนดนโยบายและมาตรการ
ที่สังคมเฝ้าจับตารอดู
รอดูการทำงานที่เป็นรูปธรรมของรัฐบาล