ที่เห็นและเป็นไป : ประเทศที่เปลี่ยนไป โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ

ที่เห็นและเป็นไป : ประเทศที่เปลี่ยนไป โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ

ที่เห็นและเป็นไป : ประเทศที่เปลี่ยนไป โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ

สถานการณ์ “โควิด-19” สำหรับประเทศไทยเรามีแนวโน้มที่ดีขึ้น คาดว่ารัฐบาลคงคืนการทำมาหากินปกติให้ประชาชนในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม มีการประเมินกันว่าแม้จะกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติได้ แต่หลายอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปเกินกว่าจะฟื้นคืน หลายธุรกิจไม่สามารถกลับคืนมาได้ ผู้คนจะต้องปรับตัวสู่วิถีชีวิตแบบใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ใช่ชีวิตที่คุ้นชิน

เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และรุนแรง

Advertisement

เมื่อเป็นดังนี้ ทุกคนที่ต้องมีชีวิตต่อไป จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้อยู่ได้หรือมีหนทางเจริญรุ่งเรืองในความเป็นไปอย่างใหม่

เป็นปกติธรรมดาอยู่เอง ที่ทุกการปรับเปลี่ยนจะต้องมีความยากลำบาก ในแต่ละคนที่จะต้องปรับชีวิตแบบใหม่หนักหนาอยู่แล้ว แต่ที่น่าจะต้องทำงานให้หนักอย่างชาญฉลาดมากกว่าคือรัฐบาล

ถึงวันนี้รัฐบาลซึ่งมีหน้าที่บริหารประเทศ ควรจะมีความชัดเจนในทุกด้านที่จำเป็นต่อการจัดการประเทศ สื่อสารกับประชาชน

Advertisement

ผู้มีอำนาจต้องมี “วิชั่น” อันหมายถึงมองเห็นความเป็นไปในอนาคตข้างหน้า มองเห็นว่าอะไรคือโอกาส อะไรคือความล้มเหลว

ต้องมีแผนยุทธศาสตร์ชาติที่มีศักยภาพที่จะนำประเทศสู่โอกาส และหลีกหนีความล้มเหลว กำหนดให้ชัดถึงวิธีการแต่ละอย่างที่นำพาชาติไปสู่ความรุ่งเรืองในวิถีชีวิตแบบใหม่

ต้องสื่อสารไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ หรือประชาชนทั่วไป ถึงทิศทางตามดังกล่าว เพื่อให้รับรู้ว่าประเทศชาติจะเดินไปทางไหน เพื่อให้เกิดการเตรียมตัวที่พร้อมสำหรับการเดินไปข้างหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจในทางเดียวกัน

เรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันหมายถึงการต้องเตรียมทุกอย่างให้สอดคล้องกับสภาวะที่จะนำพาไปไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความรู้ความสามารถของคน ซึ่งหมายถึงการจัดการศึกษาทั้งระบบให้สอดคล้อง เพื่อสร้างความรู้ความสามารถของคนให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตในอนาคต ไม่เป็นการลงทุนการศึกษาที่สูญเปล่า หรือยิ่งสร้างความแปลกแยกระหว่างคนกับโลกอนาคต เลยไปถึงการเตรียมปัจจัยในอาชีพที่เป็นความหวังนั้น

รัฐบาลต้องสื่อกับประชาชนให้ชัดถึงการเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องตั้งอกตั้งใจใช้ความพยายามสูงยิ่ง เพื่อที่แต่ละคนจะได้มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะเลี้ยงตัวเอง และเป็นกำลังสำคัญของชาติ

ต้องสื่อสารให้รู้ว่าประเทศนับจากนี้ ประชาชนต้องทุ่มเทอย่างหนักเพื่อร่วมกันฟื้นฟู เพราะภาระของแต่ละคนไม่ใช่แค่แสวงหาความสำเร็จเพื่อต่างคนต่างสร้างเนื้อสร้างตัวเท่านั้น ทว่ายังมีภาระหนักหน่วงที่จะต้องช่วยเหลือประเทศชดใช้หนี้มหาศาลที่สร้างไว้

รัฐบาลจะต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจตรงกันว่า หนี้ของประเทศที่เกิดจากความจำเป็นต้องกู้มารับมือโรคระบาดครั้งใหญ่นี้เป็นภาระของคนในอนาคตที่จะต้องแบ่งปันทรัพย์สินที่ทำมาหาได้มาให้รัฐบาลเพื่อนำมาชดใช้หนี้สินที่กู้มานั้น

อันหมายถึงชีวิตที่ลำบากอยู่แล้วจะต้องลำบากขึ้นไปอีก

และเพื่อผ่อนเบาความยากลำบากของเพื่อนร่วมชาติ รัฐบาลมีหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจกับคนชั้นที่ได้เปรียบกว่า ขอให้อย่าอาศัยเงื่อนไขที่ได้เปรียบนั้นถ่างความเหลื่อมล้ำให้หนักขึ้นไปอีก อย่างเช่นสร้างการผูกขาดในอาชีพ

ทำอย่างไรจึงเปิดช่องทางทำมาหากินให้กับผู้ด้อยโอกาสให้สามารถดูแลตัวเอง ซึ่งต้องแบกรับภาระของประเทศไปด้วยได้ เพื่อให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นไปอย่างสุขสงบ

สถานการณ์ที่ขายฝากอนาคตของประเทศไปเรียบร้อยแล้วเช่นนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีรัฐบาลที่ทรงภูมิรู้ เปี่ยมความสามารถ และผู้นำที่ชาญฉลาด มีไหวพริบปฏิภาณที่จะแก้ปัญหาอย่างถูกหลัก

ที่สำคัญคือ “ผู้นำ” จะต้องมีทัศนคติในทาง “เห็นคุณค่าของประชาชน ทำเพื่อประชาชน”

นับจากนาทีนี้ ชะตากรรมของทุกคนขึ้นอยู่กับ “คุณภาพผู้นำ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image