สถานีคิดเลขที่ 12 : บรรยากาศคุ้นๆ

สถานีคิดเลขที่ 12 : บรรยากาศคุ้นๆ

มีความเคลื่อนไหวจากหลายๆ ประเทศในยุโรป ที่มีภาวะการแพร่ระบาดของโควิดอย่างรุนแรง มียอดคนติดเชื้อและคนตายมากมายมหาศาล แต่เมื่อสถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้น เริ่มลดจำนวนคนป่วยและคนตายได้อย่างน่าพอใจ ก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และบางประเทศเช่นอิตาลี ถึงขั้นเตรียมเปิดประเทศให้เดินทางเข้าออกได้ตามปกติในเดือนมิถุนายนนี้

แน่นอนว่า เมื่อเริ่มผ่อนคลาย เริ่มเปิดเมือง และถึงขั้นจะเปิดประตูประเทศแล้ว

ย่อมมีเสียงท้วงติงจากฝ่ายสาธารณสุข ห่วงใยเรื่องการระบาดระลอก 2 ระลอกใหม่ ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจ จะต้องบริหารจัดการให้ลงตัว

Advertisement

เสียงเตือนจากแพทย์ก็ต้องฟัง ขณะที่เสียงท้วงจากฝ่ายดูแลเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ก็ต้องพิจารณาไปพร้อมๆ กันด้วย

ด้านหนึ่งต้องไม่ให้คนต้องติดเชื้อไวรัสจนป่วยจนตายกันมากมาย แต่อีกด้านคนไม่มีจะกินก็อดตายได้เหมือนกัน

ดังนั้นในหลายๆ ประเทศ เมื่อเริ่มควบคุมการแพร่เชื้อได้ในระดับที่น่าพอใจ ก็ต้องคิดเรื่องการเดินหน้าด้านเศรษฐกิจให้ได้เร็วไวที่สุด

Advertisement

มีแนวโน้มว่าหลายๆ ชาติทั่วโลก จะเริ่มเปิดประตูประเทศในอีกเดือนสองเดือนข้างหน้านี้ จะเห็นได้ว่าแม้แต่การบินไทย ที่กำลังจะต้องเข้าแผนฟื้นฟู ยื่นเรื่องเข้าสู่ศาลล้มละลาย ยังไม่รู้จะต้องผ่าตัดหั่นชิ้นส่วนอวัยวะกันขนาดไหน ก็ยังคลอดตารางบินอินเตอร์ออกมาแล้ว จะเริ่มบินไปยัง 32 เมืองทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

นี่คือวิถีโลก ที่จะต้องดำเนินไป

แน่นอนว่า เมื่อเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น เริ่มรับคนเดินทางข้ามประเทศกันแล้ว ก็จะต้องเสี่ยงกับการแพร่ระบาดรอบใหม่ค่อนข้างมาก

แต่จะไม่ยอมเปิดอะไรเลย ไม่ยอมคลายล็อกเลยก็คงไม่ได้

ที่ ศบค.ออกมาเตือนทุกวันว่า การ์ดอย่าตก ก็เป็นคำเตือนที่ดีที่ถูกต้อง

แต่ระหว่างยกการ์ด ก็อย่าให้เห็นแต่ซี่โครงชนิดนับได้ครบว่ามีกี่ซี่

การกินอยู่ เศรษฐกิจการค้าต้องเดินหน้า ยกการ์ดขึ้นมา ต้องมีกล้ามเนื้อห่อหุ้มกระดูกอยู่พอสมควร

ในแง่นี้จึงมีคำถามต่อการใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว ว่าควรจะต้องมีต่อไปหรือไม่ เพราะถือเป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจการค้าไม่น้อย

โดยเฉพาะเคอร์ฟิวเรียกร้องกันมาก ก่อนหน้านี้รัฐบาลยอมขยับไปอีกชั่วโมงเป็น 5 ทุ่มซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก สามทุ่มก็ต้องปิดกิจการร้านค้า เร่งรีบกลับบ้านไม่ให้เกิน 5 ทุ่ม

ตอนนี้เลยเรียกร้องกันกระหึ่ม เคอร์ฟิวต้องร่นไปมากกว่านี้ หรือยกเลิกไปเลย เช่นเดียวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหล่านี้รัฐบาลต้องประเมินให้ดี แถมไปๆ มาๆ เริ่มมีข้อวิเคราะห์กันว่า ที่ไม่ยอมเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คงจะกลัวสถานการณ์การเมืองมากกว่า

เดือนพฤษภาคมนี้ มีการทวงถามความจริงและความเป็นธรรมเหตุการณ์สลายม็อบปี 2553 ที่ตายไปถึง 99 ศพ

แล้วที่สำคัญ 22 พฤษภาคม ครบรอบรัฐประหาร คสช. ที่แกนนำรัฐบาลปัจจุบันก็คือแกนนำคณะปฏิวัติเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557

ยิ่งบ้านเมืองเราวันนี้ ยังมีการใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศใช้เคอร์ฟิว บรรยากาศมันคุ้นๆ ยิ่งกระตุ้นให้ผู้คนนึกถึงการรัฐประหารเมื่อ 6 ปีก่อน

ฉุดเศรษฐกิจมาตลอด 5 ปี พอเจอโควิดเข้าให้ก็เลยยิ่งป่วยหนัก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image