ที่เห็นและเป็นไป : ก่อน‘ลูกหลาน’จะถาม‘วิญญาณปู่’

ที่เห็นและเป็นไป : ก่อน‘ลูกหลาน’จะถาม‘วิญญาณปู่’

ที่เห็นและเป็นไป : ก่อน‘ลูกหลาน’จะถาม‘วิญญาณปู่’

งบประมาณของรัฐที่ตั้งขึ้นด้วยเงินกู้มหาศาล เป็นภาระต่อประชาชนในอนาคตมโหฬารนั้น

คนหนุ่มสาวลงไปถึงลูกหลานวัยเยาว์ และอาจเลยไปถึงที่ยังไม่เกิด ซึ่งจะเป็นประชาชนไทยในอนาคตดังกล่าว สมควรจะต้องได้รับความใส่ใจยิ่งในชะตากรรมซึ่งบรรพบุรุษได้สร้างความยากลำบากไว้ให้

ด้วยเป็น “ชีวิตติดลบ” ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

Advertisement

ดังนั้น การเงินงบประมาณอันมาจากเงินกู้ที่ท่วมหัวไปหลายชาติแบบนี้ จะจ่ายกันแบบหลับหูหลับตา ไม่คิดถึงความรับผิดชอบไม่ได้

การใช้อย่างมีหลักมีเกณฑ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการรั่วไหลเป็นประโยชน์ส่วนตัวของใคร ต้องไม่ให้เกิดอย่างเด็ดขาด ด้วยเป็นความผิดบาปที่ลูกหลานไทยจะต้องเป็นผู้รับกรรม

การใช้งบประมาณของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพคือ ต้องเป็นไปเพื่อแก้ปัญหา มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ

และหากจะให้เป็นประโยชน์จริงๆ คือ การพัฒนาที่ลงไปในการ “สร้างคน”

ควรจะเป็นการสร้างคนอย่างทั่วถึงเท่าเทียม ด้วยความเชื่อว่า “ศักยภาพคนคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาประเทศ”

นั่นคือเรื่องที่ควรจะทำให้เกิดขึ้น เรื่องที่จะไม่ทำให้รู้สึกผิดบาปต่อการสร้างภาระให้ลูกหลาน

ทว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ติดตามข่าวสารในช่วงนี้ ด้วยจิตใจที่อาทรต่อความเป็นไปของคนไทยรุ่นหลัง จะสัมผัสได้ถึงความน่าเศร้าอย่างยิ่ง

งบประมาณ 4 แสนล้านบาทที่รัฐบาลจะใช้กอบกู้ประเทศ ซึ่งมีรายละเอียดของโครงการออกมาระดับหนึ่งแล้ว

เป็นหนังตัวอย่างที่ชัดเจน

การตั้งโครงการเพื่อใช้งบประมาณนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ ถึงความไม่เชื่อมั่นว่าจะสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมได้

อย่าว่าไปถึง “ความคุ้มค่าเต็มเม็ดเต็มหน่วย” เลย แค่ความหวังว่าจะไม่เป็นแบบ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” อันหมายถึงละลายไปโดยเปล่าประโยชน์ ยังไม่เห็นใครแสดงความรู้สึกว่าหวังได้

บางคนชี้ให้เห็นว่าเป็นการจัดทำโครงการเพื่อใช้งบประมาณมหาศาลนี้อย่าง “ไร้จินตนาการที่ทำให้เห็นภาพของผลที่จะเกิดกับประเทศ” เป็นแค่การสักแต่ว่ามีเงินก็ใช้กันไป ด้วยโครงการรูปแบบเก่าๆ และวิธีการแบบเดิมๆ อย่างที่เคยทำกันมาครั้งแล้วครั้งเล่า และพิสูจน์ให้เห็นมาตลอดว่าเป็นความสูญเปล่า เมื่อมองจากมุมของผลต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต

เมื่อเงินหมด ทุกอย่างในประเทศก็กลับมาเหมือนเดิม

บางคนมองละเอียด และเห็นเจตนาลึกไปมากกว่านั้นในทำนองว่าเป็นการจัดสรรงบประมาณ “เพื่อหวังผลทางการเมือง” เป็นการแจกจ่ายให้กับเครือข่ายของพรรคพวกตัวเอง เพื่อสร้างฐานความนิยมและคะแนนเสียง

เป็นการทำให้เกิดผลต่อพรรคพวกตัวเอง ในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะต้องจัดให้มีขึ้น และการเลือกตั้งทั่วไปตามวาระในวันข้างหน้า

บางคนมองไปที่การเปิดทางผลประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้องโดยแสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังต่อองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบ

ความเชื่อทั้งหลายเหล่านี้ เป็นมุมมองที่ก่อให้เกิดความชวนเวทนาต่อ “ประชาชนในอนาคต” อันเกิดจากความเหลวไหล และหวังแต่เสพความสำเร็จ ปรนเปรอความสุขส่วนตัวของผู้มีอำนาจวาสนาในปัจจุบัน

งบประมาณที่มีแนวโน้มว่าจะเปล่าเปลืองไปอย่างไร้ประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ แต่จะเป็นภาระอันหนักหนาสาหัสต่อลูกหลานไทยเหล่านี้

น่าสนใจยิ่งว่าประชาชนคนไทยในปัจจุบันทุกหมู่เหล่า จะสร้างความรู้สึกที่ดีฝากไว้ในใจคนรุ่นหลังในอนาคตอย่างไม่รู้สึกผิดบาป

คนทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป นักการเมือง นักธุรกิจหรือกลุ่มไหนก็ตาม

จะสร้างบุญกุศลให้กับตัวเองเพื่อจากลาแผ่นดินด้วยความรู้สึกที่ดีต่อลูกหลานไทยในอนาคตได้อย่างไร

เป็น “ลูกหลานไทย” ในความหมายที่ไม่ใช่แค่ลูกหลานตัวเอง

“ลูกหลานตัวเอง” ที่ไม่แน่ว่าจะภาคภูมิใจหรือไม่ กับการที่บรรพบุรุษสร้างความมั่นคงสุขสบายไว้ให้ ด้วยการก่อกรรมทำเข็ญไว้ให้เพื่อนร่วมชาติส่วนใหญ่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image