กรณีวันเฉลิม 2 ภาพในสายตาโลก จากสังคมไทย

กรณีวันเฉลิม 2 ภาพในสายตาโลก จากสังคมไทย

กรณีวันเฉลิม 2 ภาพในสายตาโลก จากสังคมไทย

นับแต่การหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อย่างอุกอาจกลางพนมเปญเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ได้บังเกิดปรากฏการณ์ที่สวนทางกัน 2 ปรากฏการณ์

1 เกิดความห่วงใยผ่าน #SAVE วันเฉลิม

มิได้เป็นความห่วงใยจาก “คนไทย” ด้วยกันทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หากแต่เป็นความห่วงใยในทางสากล

Advertisement

หากมองผ่าน “จำนวน” ก็มากมายหลาย “ล้าน”

กระทั่ง ข่าวการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นข่าวระดับโลก ระดับสากล กระทั่งสหประชาชาติหรือ UN มิอาจนิ่งเฉย

ผลก็คือ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ได้กลายเป็นคนระดับโลก

ขณะเดียวกัน ในท่ามกลางความห่วงใยต่อการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ก็เกิดภาพ 1 ซึ่งไม่ยอมให้เกิดความห่วงใย

นั่นก็คือ ภาพแห่งการสกัดขัดขวางการเคลื่อนไหว

ภาพแห่งการสกัดขัดขวางต่อการเคลื่อนไหวแสดงความห่วงใยต่อการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ สัมผัสได้ 2 รูปแบบ

รูปแบบหนึ่ง คือการออกมาทำให้กรณีของ ต้าร์ วันเฉลิม ด้อยค่า ความหมาย

เห็นได้จากคำพูดของคำพูดในลักษณะไม่ให้ความสำคัญต่อทั้งตัว นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และต่อการหายตัวไป

ยิ่งกว่านั้น ยังมีปฏิบัติการ IO เพื่อทำลายชื่อเสียง

รูปแบบหนึ่ง พยายามทำให้การเคลื่อนไหวแสดงความห่วงหาอาทร ไม่ว่าของสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ไม่ว่าของประชาชน

กลายเป็นการกระทำอันเป็น “ความผิด”

เริ่มจากการหยิบยกสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ตามมาด้วยความผิดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

และที่สุดก็โยนข้อหาผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ร.บ.จราจรทางบก

น่าแปลกอย่างยิ่งที่การพยายามสกัดขัดขวางต่อการ # ตามหาความจริงในกรณี #SAVE วันเฉลิมมาจากทางด้านรัฐบาล ทางด้านความมั่นคง

ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการในลักษณะ IO

ไม่ว่าจะเป็นการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ออกสกัดขัดขวางและตั้งข้อหาว่าทำผิดกฎหมาย

เป้าหมายก็คือ ไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหว

เป้าหมายเหมือนกับต้องการปล่อยให้กรณีการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับไม่เคยเกิดขึ้น มีขึ้นในทางเป็นจริง

เป็นการกุขึ้น สร้างขึ้นเหมือนกับเป็นข่าวปลอม

ทั้งๆ ที่ภาพการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ใจกลางกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา มีหลักฐานในเชิงประจักษ์ครบถ้วน

ทั้งภาพนิ่ง ทั้งภาพเคลื่อนไหว

ถามว่าเจตนาในการด้อยค่า ดิสเครดิตเจตนาในการทำให้การหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ประสบผลสำเร็จหรือไม่

ตอบได้เลยว่า ไม่

เพราะหากไม่ก็คงไม่เกิดปรากฏการณ์ #SAVE วันเฉลิม เพราะหากไม่คงไม่ได้เห็นการขยับตัวขององค์การสหประชาชาติ

คำถามก็คือกรณี ต้าร์ วันเฉลิม จะดำเนินไปอย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image