คอลัมน์หน้า 3 : กระบวน ปะทุ ความคิด การเมือง มิติใหม่ สังคม
พลันที่ CARE คิด เคลื่อนไทย ปรากฏขึ้น ณ พื้นที่ของวอย์ซ สเปซ สัญญาณใหม่ สัญญาณสำคัญในทางการเมืองก็เริ่มเด่นชัด
หลายคนมองเห็นถึงการแตกตัวของพรรคเพื่อไทย
หลายคนมองเห็นถึงยุทธการแตกแบงก์ย่อยในห้วงก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 จากกรณีของพรรคไทยรักษาชาติ
เพราะเห็นชื่อของ “บิ๊กเนม” หลายชื่อ
ไม่ว่าจะเป็นจากชื่อ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ไม่ว่าจะจากชื่อ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ไม่ว่าจะจากชื่อ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และปิดท้ายด้วยชื่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย
มองเห็นสายสัมพันธ์จาก ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย
แต่เมื่อเห็นชื่อ นายดวงฤทธิ์ บุนนาค เห็นชื่อ น.ส.ลักขณา ปันวิชัย เห็นชื่อ นางวีรพร นิติประภา ก็เริ่มบังเกิดความประหลาดใจ
เพราะล้วนเป็น “หน้าใหม่” หน้าตาแปลก
ไม่ว่า นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ไม่ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย เน้นย้ำอย่างหนักแน่นและจริงจังว่ายังไม่คิดถึงระดับจัดตั้งพรรคการเมือง
หากแต่จะดำเนินไปในแบบ Social Movement
สำหรับผู้ที่เคยเป็นแฟนของพรรคไทยรักไทยก็อาจจะเข้าใจ เพราะนี่คือกระบวนการที่พรรคไทยรักไทย เคยปฏิบัติก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544
นั่นก็คือลงไปยัง “ชุมชน” สัมผัสกับ “ชาวบ้าน”
ก่อนจะกลายมาเป็นนโยบายอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค ก่อนจะกลายมาเป็นนโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
นี่คือความสันทัดจัดเจนในแบบ “ไทยรักไทย”
เพียงแต่หนใหม่มิได้วนเวียนอยู่แต่กับนักการเมืองหน้าเก่า หากแต่แตะลงไปยังคนหน้าใหม่ ไม่ว่าในแวดวงเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และแต่ละชุมชน
ความจัดเจนนี้มีรากฐาน มีความเป็นมา
ประหนึ่งว่า แต่ละบาทก้าวของ CARE จะต่อยอดมาจากความสำเร็จของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย
เป็นความจริง แต่สาวโยงไปได้ไกลกว่านั้น
สาวไกลไปถึงสภาพการณ์การเคลื่อนไหวตื่นตัวก่อนสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2516 และสภาพการณ์ในห้วงหลังเดือนตุลาคม 2519
เห็นชื่อ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ก็ต้องร้องฮ้อ
ยิ่งเห็นชื่อ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ยิ่งเห็นชื่อ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ยิ่งเห็นชื่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย ก็ยิ่งเห็นความคึกคักประชาธิปไตยอันเบ่งบาน
ไม่ว่าศูนย์นักเรียน ไม่ว่าองค์กรพัฒนาเอกชน
เมื่อนำเอาบทเรียนและความจัดเจนเหล่านี้ผนึกตัวผนวกรวมเข้ากับ นายดวงฤทธิ์ บุนนาค เข้ากับ น.ส.ลักขณา ปันวิชัย เข้ากับ นางวีรพร นิติประภา
ก็บอกได้คำเดียวว่า “ไปโลด”
ยิ่งหากนำเอาบทบาทของ CARE คิด เคลื่อนไทย ไปวางเรียงอยู่เคียงข้างกับ คณะก้าวหน้าของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล
ยิ่งมองเห็นเครือข่ายและความเชื่อมโยง
นี่คือขบวนการ 3 ประสานในทางความคิด อันไม่เพียงแต่เชื่อมโยงไปยังพรรคเพื่อไทย หากแต่ยังสัมพันธ์กับพรรคอนาคตใหม่อย่างแนบแน่น
จึงเป็นอีก “มิติ” หนึ่งในทางความคิดและในทางการเมือง
