พื้นที่ร้อนแรง เลือกตั้งซ่อมปากน้ำ กับนิวนอร์มอล

พื้นที่ร้อนแรง เลือกตั้งซ่อมปากน้ำ กับนิวนอร์มอล

หากยึดกุมผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มาเป็นบรรทัดฐาน แนวโน้มการเลือกตั้ง “ซ่อม” ในเดือนสิงหาคมที่สมุทรปราการ

ก็คาดหมายได้ง่ายดายอย่างยิ่ง

ในเมื่อคะแนนของ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก คือ 41,745 ในเมื่อคะแนนของ นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ คือ 33,007 ในเมื่อคะแนนของ นายตรัยวัฒน์ อิ่มใจ คือ 31,430

มองตาม “ยุทธศาสตร์” การเมืองเดิม

หาก นายตรัยวัฒน์ อิ่มใจ หลีกทางให้กับ นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ โอกาสที่ชัยชนะจะเป็นของ นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ มีความเป็นไปได้

นั่นคือคะแนนพรรคเพื่อไทยผนวกเข้ากับคะแนนพรรคอนาคตใหม่

พลันที่พรรคก้าวไกลซึ่งเป็น “อวตาร” แห่งพรรคอนาคตใหม่ประกาศจะส่งคนของตนลงสมัคร นั่นหมายถึงโอกาสที่ชัยชนะจะเป็นของ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก สูงยิ่ง

ทำไม

คําว่า “ทำไม” ในที่นี้มิได้อยู่ที่ว่า ทำไมพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยจึงไม่จับมือกัน และรวมถึงว่าทำไมพรรคก้าวไกลจะต้องแตกแถวออกไปอย่างนั้น

ทั้งๆ ที่ร่วมอยู่ในพันธมิตรพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน

หากถือตามบรรทัดฐานแห่งการเลือกตั้ง “ซ่อม” ที่นครปฐม พรรคเพื่อไทยก็เคยเปิดทางให้กับพันธมิตรมาแล้วอย่างได้รับคำชมเชย

กล่าวสำหรับพื้นที่สมุทรปราการก็เด่นชัด

ในเมื่อเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนมาแล้ว ยิ่งกว่านั้น คนของพรรคเพื่อไทยก็อยู่ในอันดับ 2

มีความเหมาะสมมากกว่าคนของพรรคก้าวไกล

กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อแปรเปลี่ยนจากพรรคอนาคตใหม่มาเป็นพรรคก้าวไกล พันธะเดิมที่เคยมีก็ย่อมจะต้องแปรเปลี่ยนไปด้วย

ตรงนี้อาจเป็นเหตุผลของพรรคก้าวไกลก็เป็นได้

ถามว่าเหตุใดการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ในพื้นที่สมุทรปราการ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่ล้วนพ่ายแพ้ให้แก่พรรคพลังประชารัฐ

คำตอบ 1 เพราะเงื่อนไขแห่งกลไกอำนาจรัฐ

เป็นเงื่อนไขอันต่อเนื่องมาจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นเงื่อนไขที่พรรคพลังประชารัฐเชื่อมเข้ากับอำนาจ “เดิม” ในท้องถิ่น

เป็นอำนาจก่อนยุคพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน

คำตอบ 1 เพราะคะแนนและความนิยมของผู้สมัครพรรคเพื่อไทยกับคะแนนและความนิยมของผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่แย่งชิงและตัดกันเอง

คะแนนที่พรรคอนาคตใหม่ได้ คือ คะแนนพื้นฐานของพรรคเพื่อไทย

ตรงนี้ไม่เพียงแต่สร้างความพ่ายแพ้เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ยังเป็นปัจจัยต่อเนื่องที่จะก่อสภาวะพลิกผันแปรเปลี่ยนในเดือนสิงหาคม 2563 อีกด้วย

เพียงแต่อาจไม่เป็นเหมือนเดือนมีนาคม 2562

สถานการณ์การเลือกตั้ง “ซ่อม” สมุทรปราการอาจไม่เหมือนกับที่เกิดขึ้นในนครปฐม ขอนแก่น หรือแม้กระทั่งที่กำแพงเพชร หรือลำปาง

เนื่องจากเป็นสถานการณ์ในเดือนสิงหาคม 2563

เป็นสถานการณ์หลังคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เป็นสถานการณ์หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นสถานการณ์หลังความขัดแย้งใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ

โอกาสที่จะเกิด “นิว นอร์มอล” จึงมีความเป็นไปได้

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่