กระสวน การเมือง
การเมือง ยุค แฮมทาโร่
จังหวะก้าว สดใหม่
ปรากฏการณ์การชุมนุมอันมีจุดเริ่มจากเมื่อเย็นวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม เมื่อมาถึงเย็นวันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม สะท้อนออกอย่างเด่นชัดว่า
ยัง “เดินหน้า” ต่อไป
หากย้อนคลิปกลับไปดูสภาพการณ์บนถนนราชดำเนินเมื่อตอนเย็นวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม ก็จะสัมผัสได้ในความทุลักทุเล
แม้แต่ “เวที” ก็ไม่มีความพร้อม
เมื่อเวทีก็ต้องเรียกหาจากคนรอบข้าง อย่าถามว่าคนที่มาขึ้นปราศรัยนอกจากแกนนำจากเยาวชนปลดแอก แกนนำ สนนท.และเยาวชนจากระยองแล้ว
มองหาก็มองหาย
แต่แล้วเมื่อข้อเรียกร้องที่เริ่มจาก 1 หยุดคุกคามประชาชน 1 แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 1 ยุบสภาเพื่อมอบคืนอำนาจให้กับประชาชน
ก็จะสัมผัสได้ในความเป็น “เยาวชน” คนรุ่นใหม่
จากปรากฏการณ์เมื่อตอนเย็นวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม บนถนนราชดำเนิน บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจึงดำเนินไปเหมือนกับ “คำประกาศ”
เป็นคำประกาศแห่ง “ยุคสมัย”
เกิดการขานรับที่เชียงใหม่ ลำพูน แพร่ เชียงราย เกิดการขานรับที่อุบลราชธานี มหาสารคาม ขอนแก่น นครราชสีมา เกิดการขานรับที่ปัตตานี พัทลุง นครศรีธรรมราช เกิดการขานรับที่ชลบุรี สมุทรปราการ อยุธยา
1 สัปดาห์ผ่านไป และไม่มีแววว่าจะหยุดนิ่ง
รูปแบบการเคลื่อนไหวมีตั้งแต่การชุมนุม มีการเขียนป้ายข้อความมาแสดง รวมถึงกิจกรรมในแนวแปลกใหม่
ไม่ว่าจะเป็น “เยี่ยมชมสวน” ไม่ว่าจะเป็น “#กรูหิวกรูไม่ทน”
ไม่เพียงแต่บทเพลง “ประเทศกูมี” จะกระหึ่ม แต่ก็มีการนำเสนอบทเพลงใหม่ว่าด้วย “แฮมทาโร่” อันแสนคึกคัก อ่อนหวาน
กลายเป็น “นฤมิตกรรม” แห่งการชุมนุม “แนวใหม่”
เพียงเวลา 1 สัปดาห์ของปรากฏการณ์แห่ง “เยาวชนปลดแอก” ได้ให้ภาพใหม่ บทเรียนใหม่ และที่สำคัญก็คือ “กระบวนทัศน์” ใหม่ในการเคลื่อนไหว
สร้างความตื่นตะลึง สร้างความงุนงงกังขา
หากมองจากสายตาของคนรุ่นเก่า ความจัดเจนเก่า ก็จะมองหาแกนนำ ก็จะมองหาท่อน้ำเลี้ยง มองหาคนซึ่งอยู่เบื้องหลัง
เหมือนกับที่เห็นเมื่อเดือนตุลาคม 2516 ว่าเป็น “คอมมิวนิสต์”
เหมือนกับความจัดเจนในห้วงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เหมือนกับความจัดเจนในห้วงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ถามว่าจะยังใช้ได้หรือไม่ในเดือนกรกฎาคม 2563 ก็ยังน่าสงสัย
เพราะบทเพลงที่ปรากฏเป็นบทเพลงว่าด้วย “แฮมทาโร่” มิได้เป็นบทเพลงในแบบ “สู้ไม่ถอย” มิได้เป็นบทเพลงในแบบ “การเกด”
แต่ละข้อหาที่โยนออกมาจึงหกคะเมน หงายหลัง
ปรากฏการณ์ในเดือนกรกฎาคมต่อสิงหาคม 2563 จึงมิได้เป็นปรากฏการณ์ในแบบเดือนตุลาคม 2516 จึงมิได้เป็นปรากฏการณ์ในแบบเดือนพฤษภาคม 2535
“แนวรบ” ในการเคลื่อนไหว “เปลี่ยนไป”
เป็นแนวรบที่ไม่ปรากฏ “แกนนำ” เป็นแนวรบอันรวมคนรุ่นใหม่ซึ่งหล่อเลี้ยงด้วยความคิดแบบ “เสรีนิยม” เสมอภาคและสร้างสรรค์
จำเป็นต้อง “เรียนรู้” จำเป็นต้องทำความเข้าใจ