ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
กลยุทธ์กดดัน ต่อชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ของ‘เพื่อไทย’
กลยุทธ์ที่พรรคเพื่อไทยกำลังกระทำต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคละเอียดอ่อนและอ่อนไหวยิ่งในทางการเมือง
เหมือนกับพรรคเพื่อไทยต้องการตัว นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ไม่ว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ว่า นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ล้วนแสดงออกตรงกันว่าอยากให้ นายชัชชาติสิทธิพันธุ์ ลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามของพรรคเพื่อไทย
ต่างยกย่อง ชี้ให้เห็น “จุดเด่น” มากมาย
ขณะเดียวกัน ภายในการยกย่องชมเชยอย่างเลิศลอยนั้น ในอีกด้านก็มีการตอกย้ำถึงบุญคุณที่พรรคเพื่อไทยเคยมีต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างใหญ่หลวง
ไม่ว่าการมอบ “ฐานะ” และ “ตำแหน่ง”
ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นความไว้วางใจให้อยู่ในสถานะ 1 ใน 3 ของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ทุกคำยกย่อง ทุกคำอ้างอิงยากยิ่งที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะปฏิเสธ
ปฏิบัติการของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะประธานยุทธศาสตร์ของพรรคต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำเนินไปภายใต้กระบวนทัศน์อันหนักแน่นและจริงจัง
เหมือนกับเป็นการให้ “โอกาส” เปิด “ช่องทาง”
แต่เมื่อศึกษากระบวนการทั้งหมดล้วนดำเนินไปในลักษณะ “มัดมือชก” ทั้งในด้านบุญคุณและความผูกพันที่เคยมีระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
เท่ากับเป็น “ข้อเสนอ” ที่มิอาจ “ปฏิเสธ” ได้
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็อำลาจากพรรคเพื่อไทยและประกาศจุดยืนของตนอย่างเด่นชัดว่าจะลงสมัครในแบบ “อิสระ”
ถึงกับจัดตั้ง “กลุ่ม” ของตนเอง และเคลื่อนไหว
เป็นการเคลื่อนไหวตั้งแต่พรรคเพื่อไทยยังไม่มีความแจ่มชัด เป็นการเคลื่อนไหวที่หลายคนในพรรคเพื่อไทยก็เห็นชอบและพร้อมให้การสนับสนุน
เป็นการสนับสนุนที่จะเดินหน้าอย่างเป็น “อิสระ”
ไม่ว่าการเคลื่อนไหวล่าสุดของพรรคเพื่อไทยจะมีรากมาจากสมองก้อนโตของใครเป็นของพรรคเพื่อไทย เป็นของภาค กทม.อย่างเป็นเอกเทศ
แต่การเคลื่อนไหวนี้เป็น “ดาบสองคม”
หากในที่สุดการเคลื่อนไหวนี้สามารถโน้มน้าวให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หวนกลับมาลงสมัครในนามของพรรคเพื่อไทย
คำถามก็คือ แล้ว “กลุ่มกรุงเทพฯต้องดีกว่า” จะดำเนินไปอย่างไร
ดำเนินไปภายใต้ยุทธศาสตร์ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หรือดำเนินไปภายใต้ยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
ยิ่งกว่านั้น หาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปฏิเสธ
พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าต่อไปหรือว่าหยุดเพียงแค่นี้ ขณะเดียวกัน แน่ใจได้เพียงใดว่าความเป็นอิสระ ความเป็นตัวของตัวเองของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะถูกตั้งข้อกังขาหรือไม่
ที่คิดว่าสร้างสรรค์ อาจเป็นทำลายก็ย่อมได้
ต้องยอมรับว่ากระบวนการเรียกร้องของพรรคเพื่อไทยที่เกิดขึ้นในกรณีของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นกระบวนการเรียกร้องอย่างกดดัน
กดดันให้เหลือ “ทางเลือก” น้อยนิด
เนื่องจากภายในข้อเรียกร้อง ไม่เพียงแต่จะนำเสนอคำยกย่องออกมาเป็นชุดๆ ในนั้นก็แฝงกระบวนท่าลำเลิกเบิกกระแชง บุญคุณตามมาด้วย
เพียงอ่านความเห็นของแกนนำบางท่านก็จะเกิดอาการ “ซาโตริ” ได้ไม่ยาก