| ผู้เขียน | พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก |
|---|
ภาพเก่าเล่าตำนาน : อย่าแหยมกับ…ยิว : โดย พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก
สมองอัจฉริยะ ประสิทธิภาพของทหารและความกล้าหาญของหน่วยคอมมานโดยิว.. นักบินที่กล้าท้ามฤตยู บินเฉียดพื้นโลก นำกำลังทหารยิวไปสังหารผู้ก่อการร้าย ช่วยตัวประกันชาวยิว 100 กว่าคนที่อยู่ห่างไปราว 4,000 กิโลเมตร
วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2519 แอร์ฟรานซ์ แอร์บัส A300 บรรทุกผู้โดยสาร 248 คน ถูกสมาชิก 2 คนของกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยปาเลสไตน์ และสมาชิกของเยอรมันคณะเซลล์อีก 2 นาย…จี้เครื่องบินกลางอากาศ
คนร้ายบังคับเครื่องบินให้ไปลงที่ นครเอเธนส์ ประเทศกรีซ เพื่อต่อรองและเพื่อเติมน้ำมัน
คนร้ายทั้ง 4 ประกาศให้รัฐบาลอิสราเอลปลดปล่อยชาวปาเลสไตน์และกลุ่มก่อการร้าย 40 คนที่ถูกคุมขังในอิสราเอล และนักโทษ 13 คนในอีก 4 ประเทศ เพื่อแลกกับตัวประกันบนเครื่องบิน
แอร์ฟรานซ์ ชะตาขาดเครื่องนี้ ถูกจี้ให้บินต่อไปยังสนามบินเอนเทบเบ (Entebbe) ในประเทศยูกันดา
รัฐบาลยูกันดามีผู้นำจอมเผด็จการ คือ นายพล อิดี้ อามิน (Idi Amin) ที่ทั่วโลกรู้จักในความโหด
แอร์ฟรานซ์ ไปลงที่สนามบินเอนเทบเบ ทหารยูกันดาเข้าคุมตัวผู้โดยสารทั้งหมดพร้อมลูกเรือ เป็นตัวประกัน คุมขังในอาคารสนามบิน
สถานการณ์เริ่มกระจ่างชัดขึ้น…อิดี้ อามิน ผู้นำของยูกันดา รู้เห็นเป็นใจ ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายครั้งนี้
กระบวนการต่อรอง เจรจา พร้อมขู่ฆ่าตัวประกันเริ่มขึ้น…
ผู้ก่อการร้าย…แยกชาวยิวและที่ไม่ใช่ชาวยิวออกจากกลุ่มใหญ่…ให้ชาวยิวเข้าไปในห้องแยกต่างหาก
ขอเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่า ความขัดแย้งของชนชาติยิวกับกลุ่มอาหรับนั้นรุนแรง แลกกันด้วยเลือดและชีวิตมาช้านาน มีการสังหารหมู่ ตามไปฆ่า ตามล้างแค้นกันไป-มา… ผู้เขียนไม่ขอกล่าว ณ โอกาสนี้
2 วันต่อมาตัวประกันที่ไม่ใช่ชาวยิว 148 คนได้รับการปล่อยตัวและบินกลับไปปารีส
ชาวยิว 94 คน ที่เป็นผู้โดยสาร พร้อมกับลูกเรือแอร์ฟรานซ์อีก 12 คนยังคงเป็นตัวประกันและถูกขู่ฆ่า
ข่าวการจี้เครื่องบินดังสนั่นโลก มีการทำงานในทางลับและเปิดเผย มหาอำนาจและประเทศต่างๆ ที่แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ต่างมีเล่ห์เหลี่ยมที่จะไม่ออกหน้า เพราะกลัวการแก้แค้น-เช็กบิลภายหลัง
ประเทศไหนจะให้-ไม่ให้ ยิวใช้น่านฟ้า ใช้เป็นฐานบินต่อระยะ ใครพวกใคร คิดกันอย่างรอบคอบ…
หน่วยงานด้านความมั่นคง ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ต่างพุ่งความสนใจในยุทธวิธีของกองทัพอิสราเอลที่ “เป็นทหารชั้นเยี่ยม” ของโลก
คนร้ายที่คุมตัวประกันอยู่ในสนามบินเอนเทบเบประกาศก้องซ้ำแล้ว ซ้ำอีก จะสังหารตัวประกันชาวยิวทั้งหมด
หน่วยข่าวกรองอิสราเอลที่เรียกว่า “มอสสาด” (Mossad) รายงานข้อมูลเหตุการณ์แทบจะทุกนาที
คนร้ายตั้งใจใช้สนามบินเอนเทบเบ ในยูกันดา เพื่อให้ไกลโพ้นจากการทำงานของทหารอิสราเอล และได้เจ้าของประเทศจอมโหดเป็นท่อน้ำเลี้ยง
กองทัพอิสราเอล การวางแผนปฏิบัติการชิงตัวประกัน ใช้ชื่อรหัสว่า “ยุทธการสายฟ้า” หรือ “Operation Thunderbolt”
เข็มนาฬิกาเดินหน้าไม่เคยหยุด ทุกนาที คือ ความเป็นความตายของพี่น้องชาวยิวที่เป็นตัวประกัน ข้อมูลของกองทัพยูกันดาเป็นเรื่องไม่ง่าย
มอสสาด หน่วยข่าวมืออาชีพเบอร์ต้นของโลก ไม่ทำให้ฝ่ายยุทธการต้องผิดหวัง …ในเพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็สามารถทำให้ฝ่ายยุทธการเห็นภาพของสนามบิน อาคารต่างๆ ที่พักของตัวประกัน ทางเข้า-ออก รวมทั้งกำลังแนวทางการปฏิบัติของทหารของยูกันดา
พันโท ชานี ได้รับมอบให้ทำหน้าที่เป็น “หัวหน้าภารกิจบิน” ไปช่วยเหลือตัวประกันชาวยิวที่สนามบินเอนเทบเบ
เสืออากาศ ชานี ตัดสินใจเลือกใช้เครื่องบิน C-130 Hercules เพราะต้องการบินในระยะต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์และด้วยเหตุผลที่สนามบินเอนเทบเบอาจจะมีระยะสั้น อาจมีเครื่องกีดขวางบนรันเวย์ หรืออุปสรรคมหาศาล
อากาศยานชนิดนี้เปรียบเสมือนยานวิเศษ ตอบโจทย์ แก้ปัญหาได้ทั้งหมด ที่สำคัญคือ สามารถบรรทุกอุปกรณ์ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับงานภาคพื้นดิน และหน่วยคอมมานโดได้อย่างลงตัว
ระยะทางบินราว 4,000 กม. นี่คือภารกิจที่ทุกคนพร้อมตาย
ผบ.ภารกิจบิน คัดเลือกลูกเรือมือพระกาฬด้วยตัวเอง เขาบันทึกว่า “ฉันต้องปิดและล็อกประตูห้องทำงาน และเขียนชื่อของทีมงานที่จะเข้าร่วมบนกระดาน ทุกคนเป็นนักบินรบที่เคยบินไปยังเอนเทบเบมาก่อน หรือเคยเป็นครูการบินให้กับกองทัพอากาศยูกันดาและรู้จักสนามบินเป็นอย่างดี”
นับเป็นความโชคดีที่ทหารอิสราเอลเคยเข้าไปช่วยกองทัพยูกันดาฝึกบิน เครื่องบินของกองทัพอากาศยิว เคยบินไปยังเอนเทบเบบ่อยครั้งในช่วงที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
หากแต่เวลาต่อมา…ผู้นำของลิเบียกดดันให้ นายพล อิดี้ อามิน ขับไล่ที่ปรึกษาชาวอิสราเอลและหันไปต่อต้านอิสราเอล
พันโท โจนาธาน เนทันยาฮู ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผบ.กองกำลังภาคพื้นดิน (คอมมานโด) เพื่อชิงตัวประกัน…
ยิว…วางแผนจะใช้ทหารจากหน่วยคอมมานโดบินไปราว 4 พันกิโลเมตร เพื่อจะสังหารผู้ก่อการร้ายและจะพา ตัวประกันกลับบ้านให้ได้…
รัฐบาลยิวดิ้นรน ขอยืดเส้นตาย ขอขยายออกไป 3 วันถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2519
หน่วยคอมมานโดชั้นเยี่ยม 29 คน ของยิวมีเวลาเพียง 48 ชั่วโมง ในการวางแผนปฏิบัติการและซักซ้อมการปฏิบัติ
หน่วยข่าวให้ข้อมูล เร่งสร้างอาคารผู้โดยสารจำลองแบบในเอนเทบเบ เพื่อให้คอมมานโดฝึก ให้คุ้นชินกับห้อง มุมอับ ทางเข้า-ออก
หน่วยทหารชั้นเยี่ยมรู้หน้าที่ว่า “ใครจะต้องทำอะไร” ใครจะเป็นมือสังหาร ใครจะพาตัวประกันออกมา ทุกคนมี “กิจเฉพาะ”
กองทัพอากาศยิวนำเครื่องบินไปฝึกซ้อมบินขึ้น-ลง จอดทางตอนใต้ของประเทศ โดยไม่มีไฟส่องสว่างบนรันเวย์
4 กรกฎาคม 2519 หน่วยคอมมานโดมือสังหาร และสิ่งของ “สำหรับการลวง” บินไปยังฐานทัพอากาศโอฟีร์ในทะเลทรายไซนาย
หน่วยบินปีศาจ และทหารนักฆ่าบินผ่านทางชาร์ม เอลชีค (Sharm el-Sheikh) และวางแผนจะบินกลับผ่านไนโรบี ประเทศเคนยา ที่แอบเจรจาลับสุดยอดไว้แล้ว
ทีมงานบินไปตามเส้นทางเที่ยวบินระหว่างประเทศ ที่ผ่านทะเลแดง ส่วนใหญ่บินที่ความสูงไม่เกิน 30 เมตร (100 ฟุต) เพื่อตรวจสอบการหลีกเลี่ยงเรดาร์ของอียิปต์ ซูดาน และซาอุดีอาระเบีย
หน่วยข่าวให้ข้อมูลว่า…ทุกวันตอนเย็น จะเห็นขบวนรถของ อิดี้ อามิน นั่งเบนซ์ดำ วิ่งบนรันเวย์ เพื่อไปเยี่ยมตัวประกันในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งนำโดยรถแลนด์โรเวอร์ 2 คัน
ตามแผน… เครื่องบิน C-130 ของยิว จะนำรถเมอร์เซเดส เบนซ์ สีดำ แบบที่อิดี้ อามิน ใช้อยู่ประจำบรรทุกใส่เครื่องไปด้วย
คอมมานโดยิวกำลังจะ “ซ้อนแผน” บินไปลงเอนเทบเบ เปิดท้ายเครื่องบิน เอาขบวนรถปลอมของ อิดี้ อามิน ลงจากเครื่องแล้ววิ่งเข้าไปที่อาคารกักตัวประกัน
เล่นลวงกันแบบดื้อๆ แต่แผนนี้โคตรเฉียบ…
“นักรบต้องมีอารมณ์ขัน” … ปัญหาเดียวที่ยากที่สุด คือ ในเวลานั้นไม่มีรถเบนซ์สีดำ หน่วยข่าวยิวต้องไปเช่ารถสีขาวแล้วรีบพ่นสีดำ
เบ็ดเสร็จแล้ว ภารกิจนี้จะต้องใช้ C-130 จำนวน 4 ลำ
มีเครื่องบินโบอิ้ง 707 อีก 2 ลำที่จะบินในระยะห่าง เพื่อควบคุม สั่งการ และเพื่อทำหน้าที่เป็นโรงพยาบาล
ถ้ามีคนเจ็บจะถูกส่งไปยังกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ประเทศที่เป็นมิตรกับอิสราเอล
นักบินเดนตายเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า… เราบินได้ต่ำจริงๆ เราบินอยู่เหนือน้ำ 100 ฟุต บินเป็นรูปแบบ 4 ตัว เกาะกลุ่มกันเป็นก้อนเดียว
C-130 บรรทุกสัมภาระหนักเต็มพิกัด สภาพอากาศเลวร้ายมากและเราเจอพายุฝนฟ้าคะนองที่ทะเลสาบวิกตอเรีย….
กลางดึกคืนนั้น…ท้องฟ้า ณ สนามบินเอนเทบเบมืดครึ้ม มีฝนตกลงมาเล็กน้อย ลำแรกที่คุมโดย ชานี แตะพื้นราว 23.00 น. ตามท้องถิ่น
เครื่องบินของ ผบ.ภารกิจบิน ลงจอดก่อนลำอื่น 7 นาทีเพื่อสร้างความสับสนให้ทหารยูกันดา เครื่องบินอีก 3 ลำจะทยอยลงจอดตามแผน
รถเบนซ์ดำและแลนด์โรเวอร์ 2 คัน (ขบวนลวง) ออกไปจากท้ายเครื่องบิน วิ่งไปตามรันเวย์ เพื่อไปที่อาคารกักตัวประกัน ทหารยูกันดาพรึบพรับรอรับนายพล อิดี้ อามิน เจ้านายที่มาตรวจเช่นทุกวัน
หน่วยคอมมานโดกรูลงมาจาก C-130 บุกไปตัวอาคาร ส่วนหนึ่งบุกขึ้นไปหอบังคับการบิน
เฮ้ยนี่ไม่ใช่นายกูนี่หว่า..ทหารยูกันดา…เสียขวัญสุดขีด…
เสียงปืนดังขึ้นอย่างหูดับตับไหม้ คอมมาโดฝึกมาอย่างช่ำชองลั่นกระสุนเข้าเป้า ผู้ก่อการร้ายทั้ง 7 คนถูกสังหารและตัวประกันได้รับการช่วยเหลือ
เครื่องเฮอร์คิวลิสหมายเลข 3 ปักหัวดิ่งลงสนามเพื่อรับตัวประกัน ต้องฝ่าวิกฤต เพราะทหารยูกันดาตัดไฟรันเวย์ แต่ก็ลงจอดอย่างปลอดภัย
ยิวนำรถหุ้มเกราะและทหารราบบรรทุกใส่อากาศยานไปด้วย เพื่อไปบล็อกอาคารสนามบิน มิให้ทหารยูกันดาเข้ามาเสริมกำลังได้
C-130 ของกองทัพอากาศอิสราเอลทั้ง 4 ลำ ไม่ถูกตรวจพบโดยหน่วยควบคุมการจราจรทางอากาศของเอนเทบเบ
ทุกคน ทุกส่วนทำหน้าที่ตามแผนได้อย่างเฉียบขาด ใช้เวลาปฏิบัติการในเอนเทบเบราว 45-50 นาที ผู้ก่อการร้ายถูกสังหารทั้งหมด ตัวประกันเสียชีวิต 3 คน
พันโท โจนาธาน เนทันยาฮู ผบ.หน่วยคอมมานโดถูกยิงเสียชีวิต
ทหาร ตัวประกัน คนเจ็บ คนตาย ถูกลำเลียงขึ้นเครื่อง ทุกคนทำงานเป็นวินาที การประสานงานสอดคล้องทุกจังหวะ
พันตรี ชาวล์ โมฟาซ เป็น ผบ.หน่วยจู่โจม นำกำลังบุกทำลายเครื่องบินขับไล่ MiG-17และ MiG-21 ของโซเวียตที่จอดอยู่บนพื้นดินของกองทัพอากาศยูกันดา เพื่อมิให้บินขึ้นติดตามได้
อากาศยานทหารยิวทั้งหมดทยอยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วไปแวะเติมน้ำมันที่กรุงไนโรบี เคนยา พี่น้องชาวยิวที่รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด ร้องไห้ระงม ปนกับยิ้มแย้ม สับสน ตกใจ ราวกับฝันไป
เมื่อเข้าเขตน่านฟ้าอิสราเอล เครื่องบินทั้ง 4 ลำแยกย้ายกันลงจอดในเทลอาวีฟอย่างปลอดภัย เครื่องหมายเลข 4 ที่บรรทุกตัวประกันทั้งหมด ไปที่สนามบินเบนกูเรียนเพื่อพบกับครอบครัวที่ปลื้มสุดสุด
เครื่องบินอีก 3 ที่บรรทุกนักรบกล้าตาย และสัมภาระทางทหารทั้งหมด ต้องแยกไปประชุมที่ทหารเรียกว่า debrief สรุปบทเรียนล้ำค่า
อิดี้ อามิน ผู้นำยูกันดา ฉายาว่า “ฮิตเลอร์ แห่งแอฟริกาใต้” อับอายแทบหาที่อยู่ไม่ได้ใน 3 โลก สั่งประหารชีวิตเจ้าหน้าที่สนามบินที่เอนเทบเบจำนวนมาก ทำจดหมายร้องเรียน ขอให้สหประชาชาติประณามอิสราเอล
ผบ.หน่วยคอมมานโด พ.ท.โจนาธาน เนทันยาฮู เสียชีวิต (เขาเป็นพี่ชายของ นายเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งต่อมากลายเป็น นรม.ของอิสราเอล) พร้อมตัวประกัน 3 คน
ภารกิจสะท้านโลกตรงนี้ ทำให้ชาวยิวสุดปลื้ม ขอเรียกชื่อว่า ยุทธการ โจนาธาน (Operation Jonathan) เพื่อให้เกียรติกับ พันโท โจนาธาน
เมษายน พ.ศ.2522 อิดี้ อามิน หนีออกนอกประเทศ หลังจากพ่ายแพ้ในสงครามที่น่าอัปยศอดสูกับแทนซาเนีย เสียชีวิตในเวลาต่อมา…
ชาติตะวันตกทั้งหมดกล่าวสนับสนุนการจู่โจมของยิว ชื่นชม ยกย่องโดยเรียกการทำงานครั้งนี้ว่า “ปฏิบัติการที่เป็นไปไม่ได้”
ฮอลลีวู้ด…ไม่เคยพลาดที่จะนำวีรกรรมทหารกล้าเหล่านี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ ทำเงิน ทำทองมหาศาลอีกเช่นเคย…
พันโท ชานี ผบ.ภารกิจบินท้านรก ก่อนเกษียนอายุราชการได้ยศ “พลจัตวา”
ชาวโลกต่างปรบมือ ยกย่อง เกรงขาม …ทหารยิว
แปลและเรียบเรียงโดย
พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก
