| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : อยู่ลำบาก
ดูและฟังความเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบที่ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกฯแล้ว เหนื่อยแทนบิ๊กตู่
เพราะในวันนี้ คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์เริ่มไม่ได้รับความเชื่อถือ
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์พูดแล้วมีน้ำหนัก ตอนเป็น ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าจะไม่รัฐประหาร
พูดแล้วคนเชื่อ
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจก็ “ขอเวลาอีกไม่นาน” เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน
พูดตอนนั้นคนก็ยังเชื่อ
พล.อ.ประยุทธ์เปลี่ยนสถานะจากหัวหน้า คสช.เพียงอย่างเดียวเป็นนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.
บอกว่าจะร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จ และเลือกตั้งภายใน 1-2 ปี
คนก็เชื่ออีก
การร่างรัฐธรรมนูญยกแรกดำเนินการมาได้สักพักแล้วก็ต้องกลับไปยกร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ เปลี่ยนจากชุด อาจารย์บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นชุดของ อาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ กระทั่งได้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560
ก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการทำประชามติ
ในการทำประชามติมีการสอดแทรกคำถามเพื่อมอบอำนาจให้ ส.ว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย
มีเจ้าหน้าที่เดินขอคะแนนเสียงจากประชาชนว่า ถ้าอยากให้เลือกตั้งก็ต้องโหวตหนุน
มีคนบอกกันว่าถ้าไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯแล้ว ประเทศคงจะลำบาก ดังนั้น การให้ ส.ว.ไปร่วมโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกรอบคือสิ่งจำเป็น
คนจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ผลการลงประชามติออกมาว่า เห็นด้วย
สรุปเอาว่ายังมีความเชื่อในตัว พล.อ.ประยุทธ์อยู่
แต่วันนี้ไม่ใช่เสียแล้ว
วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์บอกให้เชื่อมั่นในตัวผม เสียงขานรับเริ่มแผ่วเบา
วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ออกโทรทัศน์เตือนนักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชนที่จะไปชุมนุมกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ว่า ระวังโควิด-19 ระบาด
ขอให้ร่วมต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาด และฟื้นฟูเศรษฐกิจกันก่อน
ส่วนเรื่องการเมืองค่อยมาหารือกันทีหลัง
วันรุ่งขึ้นผู้คนในแวดวงออกมาตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ กันกระหึ่ม
วันที่ 19 กันยายน นักเรียนนิสิตนักศึกษาฝ่าฝนออกไปรวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยชุมนุมเมื่อปี 2557 ก็มาร่วมด้วย
และยังมีประชาชนอื่นๆ ที่เห็นว่าสมควรแล้วที่จะหยุดการคุกคาม แก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ก็ออกมาร่วมชุมนุมด้วย
กระทั่งสนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ล้น และต้องเคลื่อนกำลังออกมาชุมนุมกันที่สนามหลวง
ตลอดทั้งคืนที่ปักหลักก็ยังมีคนทยอยกันออกมาสมทบ ทำให้จำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมที่สนามหลวงหนาแน่น
สะท้อนภาพความเชื่อมั่นที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ลดน้อยถอยลงไปอย่างมาก
ยิ่งหากย้อนไปเปรียบเทียบจำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จะพบว่ามีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
จากเดิมมีจำนวนสิบ ต่อมามีจำนวนร้อย ขยับขึ้นเป็นจำนวนหมื่น
แล้วสุดท้ายประเมินกันว่าทะลุจำนวนแสน
จำนวนคนที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้ตอกย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ยากขึ้นทุกวัน
แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะยังคงไม่ลาออก ไม่ยุบสภา ไม่เลือกตั้งใหม่
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็คงอยู่ได้ลำบากขึ้นมาก เพราะความเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์กำลังเข้าไปอยู่ในโซนวิกฤตแล้ว
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]
