สถานีคิด : ต้นไม้ประชาธิปไตย

สถานีคิด : ต้นไม้ประชาธิปไตย

สถานีคิด : ต้นไม้ประชาธิปไตย

ดูเหมือนว่า “เมล็ดพันธุ์ทางสังคมการเมือง” บางอย่าง กำลังเจริญเติบโตและผลิดอกออกผลขึ้นแล้วบนผืนแผ่นดินของประเทศไทย ไม่ว่าจะมีผู้ใดจงใจเพาะปลูกมันหรือไม่ก็ตาม

กราฟของความเจริญเติบโตยิ่งพุ่งสูงขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เพราะ “ปุ๋ย” หลายขนาน อาทิ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร, ท่าทีการยืนแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีบางส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม, การไล่จับ “แกนนำ” (ที่มิใช่ “แกนหลัก” ของกิจกรรมการชุมนุม)

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การฉีดน้ำฯ” เพื่อสลายการชุมนุม ที่เต็มไปด้วยเยาวชน (จำนวนมากคือผู้หญิง) วัยมัธยม-มหาวิทยาลัย บริเวณถนนพระราม 1 จนกลายเป็นการจารึก “เหตุการณ์ 16 ตุลา” ลงในบันทึกประวัติศาสตร์การเมืองไทยร่วมสมัย

Advertisement

เมล็ดพันธุ์ดังกล่าวคงจะเจริญเติบโตงอกงามขึ้นเป็นอะไรหลากหลายอย่าง ทั้งที่พอจะเริ่มเห็นเค้าลาง และที่คาดเดาผลลัพธ์ในอนาคตได้ไม่แน่ชัดนัก

สิ่งแรกที่อุบัติขึ้นแล้ว คือ “ต้นไม้ประชาธิปไตย” ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งทั้งแผ่ขยายรากอันเร้นลับพันลึกสลับซับซ้อนภายใต้พื้นดิน ไปพร้อมๆ กับการมีกิ่งก้านสาขาที่แข็งแรงเพิ่มจำนวนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เหนือพื้นดิน

ต้นไม้ชนิดเดียวกันนี้ยังแพร่พันธุ์กระจัดกระจายไปไกลในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ บน “ผืนดินแห่งประวัติศาสตร์” ซึ่งสั่งสมความทรงจำ-ประสบการณ์มากมาย อาทิ การปฏิวัติ 2475, ความผิดพลาด-บาดแผลในเดือนตุลาคมปี 2516 และ 2519 และความบาดเจ็บล้มตายในปี 2553 เป็นต้น

ต้นไม้ประชาธิปไตยต้นนี้ยังอาจให้กำเนิด “ผลไม้พิษ” หรือความขัดแย้งระดับร้าวลึกระลอกใหม่ ที่งอกเงยขึ้นจาก “สถานการณ์สำคัญ” ในวันที่ 14 และ 16 ตุลาคม 2563

ซึ่งสถานการณ์เหล่านั้นล้วนเกิดขึ้นและดำเนินไปได้ด้วยกระบวนการตัดสินใจ (ที่สมควรถูกตั้งคำถาม) ของภาครัฐ-ผู้มีอำนาจทั้งสิ้น

ผลไม้พิษลูกนี้อาจเป็นบ่อเกิดของเหตุการณ์ “6 ตุลา ภาคใหม่” หรืออย่างน้อยที่สุด ก็เป็นการเพิ่มดีกรีความเกลียดชังโกรธแค้นที่คั่นกลางระหว่าง “โลกสองใบ” ภายในสังคมไทย (โดยสภาวะ “ทวิภพ” เช่นนี้ ก็ดำรงอยู่มานานเกินทศวรรษแล้ว)

ผลไม้พิษสายพันธุ์เดียวกันยังจะสร้างเหล่า “พลเมืองรุ่นใหม่” ซึ่งไม่ไว้วางใจรัฐไทย และสูญสิ้นความเชื่อมั่น-ศรัทธาต่อทุกๆ สถาบันทางการเมือง-สังคมที่มีอยู่

นี่คือ “พลเมืองใหม่” ที่จะเป็นแรงผลักดันขับเคลื่อนประเทศไทยในอีก 10-20 ปีข้างหน้า น่าเสียดาย ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่สามารถส่งมอบความหวัง-ความดีงามใดๆ ให้แก่คนรุ่นพวกเขาได้

คล้ายกับว่าบางบุคคลบางหมู่คณะกำลังทำได้แค่เพียงเฝ้ามองต้นไม้ประชาธิปไตยต้นนี้เติบใหญ่แผ่ขยายกิ่งก้านและรากเหง้าออกไปเรื่อยๆ รวมทั้งยังต้องจำใจลิ้มรสผลไม้พิษที่พวกเขามีส่วนบ่มเพาะขึ้นมา

อย่างไรก็ดี ศักยภาพของพวกเขาที่จะตัดตอนทำลายต้นไม้ต้นนี้กลับลดน้อย-หมดพลังลงทุกที

เพราะการตัดทำลายต้นไม้ดังกล่าวคือการทุบทำลายความชอบธรรมของพวกเขาเองไปพร้อมๆ กัน

ปราปต์ บุนปาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image