บทบาท ทิศทาง
สูงสุด คืนสู่‘สามัญ’
เส้นทาง ราษฎร
ไม่ว่าคุณจะชอบ ไม่ว่าคุณจะไม่นิยม ต่อการเคลื่อนไหวโดย “เยาวชนปลดแอก” อันพัฒนาเป็น “คณะราษฎร 2563” และ “ราษฎร” ในขณะนี้
แต่ข้อเสนอล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม-สำคัญ
เป็นข้อเสนอพร้อมกับจดหมายลาออกเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามภายใน 3 วัน นับจากวันที่ 21 ตุลาคม เป็นต้นไป
นั่นก็คือ คำตอบจะต้องเกิดขึ้นภายในวันที่ 24 ตุลาคม
นี่คือข้อเสนออันเป็นการยกระดับจากที่ “คณะราษฎร 2563” เคยเรียกร้องในการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ผ่านการเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาล
คือ ไม่เพียงเรียกร้องให้ “ลาออก” แต่กำหนดภายใน 3 วัน
อาจเพราะเป็นคำขาดอันหนักแน่นและจริงจัง ขบวนจึงมิได้เริ่มจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หากแต่ตั้งหลักจากอนุสาวรีย์ “ชัย” สมรภูมิ
ถามว่าเป็นไปได้ หรือ เป็นไปไม่ได้
หากมองจากมุมของ คสช.ที่ทำรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 หากมองจากความเคยชินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บริหารประเทศมา 6 ปีกว่า
มีความเป็นไปได้น้อยมาก
กระนั้น พลันที่มีการเสนอข้อเรียกร้องให้ลงนาม “ลาออก” พลันที่มีการกำหนด “เส้นตาย” เอาไว้ภายในวันที่ 24 ตุลาคม
ผลก็คือ 3 วันนี้จะเป็นนาทีแห่งความระทึก
“ข้อเรียกร้อง” ที่ปรากฏบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลก็จะกลายเป็น “วาระ” ในทางสังคมขึ้นมาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ความร้อนแรงของ “สถานการณ์” ก็จะทวีคูณ
ผลก็คือ การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 26 ตุลาคม จะถูกประเด็นนี้แย่งชิงพื้นที่ในการถกแถลง อภิปราย ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“แถลงการณ์” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลายเป็นเรื่องน่าขำขึ้นทันที
ไม่ว่าเกจิการเมืองระดับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าเกจิการเมืองระดับแกนนำมวลมหาประชาชน กปปส.
ก่อนหน้านี้อาจเคย “หมิ่นแคลน”
ว่าการก่อรูปของ “เยาวชนปลดแอก” เมื่อเดือนกรกฎาคม การขยายผลของ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” เมื่อเดือนสิงหาคม
เป็น “ม็อบมุ้งมิ้ง” เป็น “ม็อบฟันน้ำนม”
ภายหลังสถานการณ์การเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ภายหลังสถานการณ์การเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม
ก็ยากยิ่งที่จะหมิ่นหยามได้อย่างเต็มปาก เต็มคำ
ที่เคยร้องตะโกนว่าฝ่อแล้ว ฝ่อแล้ว นับแต่เห็นภาพ “คุณหญิง” และครอบครัว ณ ศิริราชพยาบาล เมื่อวันที่ 24 กันยายน
ก็ต้องกลับคำ และกลืนกลาย “มโน” อันมาจากจินตนาการลงไป
การปรากฏขึ้นของ “เยาวชนปลดแอก” เมื่อเดือนกรกฎาคม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นการริเริ่มและขับเคลื่อนโดยเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษาจริง
แต่เมื่อถึงเดือนตุลาคม กลับ “มหึมา” อย่างมหาศาล
ไม่เพียงแต่หักปากกา “เซียนการเมือง” คนแล้วคนเล่า หากแต่ได้ยกระดับและพัฒนาจาก “เยาวชนปลดแอก” กระทั่งสถาปนาขึ้นเป็น “คณะราษฎร 2563”
แล้วสูงสุดก็คืนสู่สามัญเหลือเพียง “ราษฎร”