สถานีคิดเลขที่ 12 : ความเป็นเยอรมัน

สถานีคิดเลขที่ 12 : ความเป็นเยอรมัน การเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุม

สถานีคิดเลขที่ 12 : ความเป็นเยอรมัน

การเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมสองกลุ่มหลักๆ ไปหน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 27 ต.ค. แม้จะมีเป้าหมายต่างกัน เนื้อหาต่างกัน แต่สะท้อนถึงความสำคัญของเยอรมนี ชาติยักษ์ใหญ่ของยุโรปคล้ายกัน

ไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเยอรมนีอย่างเป็นทางการวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2405 ผ่านการจัดทำสนธิสัญญาทางไมตรี การค้า และการเดินเรือ

ช่วงเวลา 158 ปี ยาวนานพอที่จะทำให้คนสองประเทศรู้จักกันไม่น้อย

Advertisement

ถ้าคนเยอรมันมาถามคนไทยว่าอะไรเป็นสิ่งที่โดดเด่นอันดับต้นๆ คำตอบน่าจะไม่หนีเบียร์ ไส้กรอก ฟุตบอลทีมชาติ ฟุตบอลบุนเดสลีกา รถเบนซ์ รถบีเอ็มฯ บริษัทยาไบเออร์ ฯลฯ

ถ้าคนไทยไปถามคนเยอรมันบ้าง ว่าถ้าพูดถึงสยามหรือไทยแลนด์รู้จักอะไรมากที่สุด ส่วนใหญ่จะได้คำตอบว่า อาหารไทย กรุงเทพฯ วัด มวยไทย และหลังๆ มานี้อาจจะเจอเจ้าหน้าที่ ตม. ทักว่ามาจากบุรีรัมย์หรือเปล่า

ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่ได้อยู่ในแบบเรียน แต่เป็นการติดต่อและแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนโดยตรง

Advertisement

หากเป็นเรื่องการเรียนนอกเหนือจากเรื่องเทคโนโลยี วิศวกรรม นวัตกรรม ที่ไทยเรียนรู้จากเยอรมนี การเมืองของเยอรมนีก็ได้รับความสนใจมากขึ้นด้วย

การเมืองของเยอรมนีโดดเด่นมากบนเวทีโลก เพราะผ่านช่วงเวลาที่ก้าวพลาดอย่างแรง เคยเป็นผู้นำก่อสงครามโลก มีกองทัพนาซีที่เกรียงไกรในด้านลบ ถูกจดจำถึงความโหดร้าย เหยียดสีผิว และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

หลังยุคนาซีปิดฉากไปแล้ว เยอรมนียังมีบทเรียนจากการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีข้อดีและจุดอ่อนให้ค้นคว้าหาความรู้และศึกษาเปรียบเทียบ

ประวัติศาสตร์สำคัญที่เรียกได้ว่าเด่นที่สุดของเยอรมนีอีกเรื่องคือการรวมชาติที่เคยแตกออกจากกัน ประชาชนมีวิถีชีวิต เศรษฐกิจ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ระหว่างตะวันตกกับตะวันออก เมื่อปี 2533

ปัจจุบันสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำโลกและผู้นำด้านประชาธิปไตย

สื่อตะวันตกยกย่องว่า นางแองเกลา แมร์เคิล ผู้นำหญิงของเยอรมนี ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกในยุคที่ โดนัลด์ ทรัมป์ สาละวนอยู่กับการทำให้อเมริกาต้องมาก่อน

แม้ชาวเยอรมันมีปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจมากมายไม่น้อยกว่าชาติอื่นๆ มีปัญหาผู้อพยพทะลักเข้าประเทศ มีกลุ่มนีโอนาซีปั่นป่วนอยู่บางโอกาสและบางพื้นที่ และล่าสุดเยอรมนีก็เจอสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักเหมือนชาติยุโรปอื่นๆ มียอดผู้เสียชีวิตหลักหมื่นแล้ว

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเชื่อมั่นได้ว่าเยอรมนีจะไม่สร้างฮิตเลอร์คนที่สองขึ้นมาอีก เพราะคนเยอรมันส่วนใหญ่เป็นคนที่ยอมรับความจริง พูดตรงไม่อ้อมค้อม ยอมรับความผิดพลาดเพื่อหาบทเรียนแก้ไขร่วมกัน

ที่สำคัญคือยึดหลักวิทยาศาสตร์ ความเป็นเหตุเป็นผล มีคนอย่าง มาร์ติน ลูเทอร์ ที่กล้าต่อสู้กับศาสนจักรโดยไม่กลัวเกรงอำนาจหรือความศักดิ์สิทธิ์

สิ่งเหล่านี้ช่วยให้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

คำขวัญประจำชาติไม่ใช่ว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่เป็น “เอกภาพ ยุติธรรม และเสรีภาพ”

ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image