| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : จบยังไง
ประเทศไทยปี 2564 จะเป็นอย่างไร
มุมมองจะออกมาในโทนยุ่งๆ สักหน่อย
ในเรื่องเศรษฐกิจ ฝากความหวังไว้กับวัคซีน ระบบการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ชายแดนรั่วซึมบ่อยๆ
เพื่อให้การ “ไปต่อ” ของประเทศ เป็นไปอย่างมีศักยภาพ ไม่ใช่กล้าๆ กลัวๆ
ส่วนเรื่องการเมือง ถามกันว่า ม็อบจะจบยังไง แผ่วหรือแรงขึ้น
การเมืองที่เยาวชน คนรุ่นใหม่เปิดประเด็นขึ้นมา กำลังท้าทายอย่างมากว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหานี้ยังไง
6 ปี หลังรัฐประหาร 2557 รัฐบาลใช้อำนาจและกฎหมาย จำกัดการเคลื่อนไหวได้ระดับหนึ่ง
หลังยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ม็อบพรึบขึ้นมา แล้วพัฒนา ยกระดับมาเรื่อยๆ
ม็อบรอบนี้ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการชุมนุมที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร 2549
มีผลต่อสังคมทุกระดับ
การชุมนุมประท้วงในแต่ละสังคม คือความไม่พึงพอใจของสมาชิกสังคม ต่อระบบระเบียบ หรือปรากฏการณ์บางอย่างในสังคม และต้องการให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น
เป็นหน้าที่ของรัฐต้องไปแก้ไข จะแก้ที่เหตุอย่างละมุนละไม หรือรุนแรง ใช้กำลัง ก็แล้วแต่วิธีคิดของคนสั่ง
ข้อเรียกร้องของม็อบที่รัฐบาลน่าจะรีบทำได้เร็วๆ คือ แก้ไข หรือยกร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย
เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลเห็นความสำคัญ และจัดการให้มีการแก้ไข หรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อย่างที่เป็นข่าวมาระยะหนึ่ง
ตอนนี้ ร่างแก้ไขสเต็ปแรก ยังอยู่ในสภา
แต่มีอุปสรรคมากมาย เกิดรายการยื้อยุด ไม่ยินยอมจากบางกลุ่มที่เสียประโยชน์
ส่วนมาตรการอื่นๆ ที่จะมีต่อการชุมนุม แรกๆ รัฐบาลยืนยันว่า จะไม่ใช้กฎหมายและความรุนแรงกับผู้ชุมนุม
สุดท้ายเปลี่ยนแปลงไป
มีการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง ถล่มใส่ ต่อด้วยการดำเนินคดี ทำให้ผู้ชุมนุมวัยต่างๆ หลายคนเจอคดีอาญา และกฎหมายอื่นๆ
และคาดว่าคงจะใช้วิธีนี้ต่อไปอีก
ถึงเวลาที่จะต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่า จะเปิดเจรจากันอย่างสังคมอารยะ หรือใช้วิธีจัดการอย่างที่รู้ๆ กัน
ต้องนั่งพูดคุยหาข้อสรุปร่วมกัน
หรือจะแก้ด้วยการเมือง พูดกันให้รู้เรื่อง ไม่ตุกติกอย่างแก้รัฐธรรมนูญ ก็ยังพอมีช่องทางยุติสถานการณ์
แต่ถ้ายืนยันใช้วิธีเดิมๆ แบบเดียวกับ 6 ปีก่อน คาดหมายว่า ม็อบคงไม่หยุดเหมือนกัน
ถ้าต่างคนต่างไม่กลัวกัน ไม่ฟังกัน จะซ้ำเติมให้ ปี 2564 เป็นอีกปีที่เหนื่อยทั่วหน้า
วรศักดิ์ ประยูรศุข
