| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : 100นายกฯ?-นายกฯเดียว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนัน
อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน
อีกชุด คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำผิดกรณีเข้าเมืองผิดกฎหมาย
ทั้งสองเรื่อง เป็นต้นเหตุ โควิดแพร่ระบาดรอบใหม่
เมื่อรัฐการ์ดตกบกพร่องเอง จำเป็นยิ่ง ต้องกระตือรือร้นแก้ไข โชว์เอาจริงเอาจังกับ 2 เรื่องนี้
แต่กระนั้นดูเหมือนสังคมไม่คาดหวังมากนัก ว่าจะนำสู่การเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ถอนรากถอนโคนบ่อนพนัน ขบวนการทุจริต กินหัวคิว นำแรงงานผิดกฎหมายเข้าประเทศ
เนื่องจากมีรูปธรรม ให้เห็นมานักต่อนัก
นับแต่รัฐบาล คสช.เข้ามาบริหารประเทศ กระทั่งปัจจุบัน ตั้งคณะกรรมการชุดแล้วชุดเล่า นับร้อยๆ ชุด
แต่สามารถยก 1 ตัวอย่างมาอวดได้บ้างหรือไม่ ว่ามีความก้าวหน้าในการแก้แต่ละปัญหา ไปจนกระทั่ง ที่ประสบความสำเร็จ
คำตอบมีอยู่ในตัว
คำพูดบิ๊กตู่ ที่ว่า “เล่นพนันเสียหายขึ้นมายิ่งกว่าไฟไหม้บ้าน โจรปล้นบ้าน…ขอร้องเถอะ มันจะได้ช่วยแบ่งเบากันไปบ้าง ไม่มีใครทำสำเร็จได้คนเดียว ต่อให้ 100 นายกฯ ก็ทำไม่ได้ ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกัน”
เป็นอีกปม ที่ทำให้การตั้งกรรมการแทบหมดความหมาย
ตั้งไปก็แก้ไม่ได้
ที่จริงนายกฯ ไม่ได้พูดผิดหรอก แต่อาจไม่ถูกทั้งหมด
ทั้งนี้เนื่องจาก มาตรการ-นโยบายอะไรก็ตามของรัฐบาล หากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ เปอร์เซ็นต์สำเร็จ ลุล่วงต่ำแน่นอน
แต่เรื่องบ่อน แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
มันไม่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนมากมาย
แต่ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบายเป็นหลัก
หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก
หากกวดขัน ปราบปรามจริงจัง ไม่มีส่วนรู้เห็น ผลประโยชน์บังตา
ไม่มีทางหรอก ที่จะเปิดบ่อนได้เอิกเกริก ขนแรงงานได้อย่างโจ่งแจ้งเป็นขบวนการ
อาจมีบ้างลักลอบเล่นได้-เสีย ลักลอบเดินทางซึ่งไม่มีนัยสำคัญ กระทบต่อความมั่นคง สังคม โรคภัยไข้เจ็บ เหมือนกับทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ระดับสัมปทาน ขบวนการ อย่างที่ปรากฏ
ฉะนั้นที่ว่า ร้อยนายกฯก็ทำไม่ได้ ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือ
ในกรณีบ่อน และแรงงานผิดกฎหมาย ไม่ต่างอะไรกับการแก้ตัว ขอความเห็นใจ
ในเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะในฐานะนายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่สถานะที่ใกล้ชิดยิ่งกว่านั้น
คือดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคุมชายแดน และกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง
เรื่องว่าด้วย หากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ ต่อให้ 100 นายกฯก็ทำไม่ได้นั้น
ถ้ามอง ณ เวลาปัจจุบัน ที่ใกล้เคียง เข้าเค้าที่สุด น่าจะเป็นเรื่องการโหลดแอพพ์หมอชนะมากกว่า ซึ่งเมื่อดูจากตัวเลข คนไทยกว่า 60 ล้านคน แต่ยอดดาวน์โหลดต่ำไม่ถึง 10 ล้าน ถือว่าไม่ปกตินัก
ห่างไกลเป้าหมาย 40 ล้านราย ที่สามารถยกระดับเป็นระบบป้องกันที่ดีได้
ทั้งที่เป็นเรื่องความปลอดภัย แต่ที่แปลกประหลาดยิ่งก็คือ ประชาชนกลับไม่ให้ความร่วมมือ
ที่จำนวนน้อย อาจเป็นไปได้ว่า ยุ่งยากสำหรับคนเฒ่าคนแก่ การเข้าไปถึง ไม่มีสมาร์ทโฟน ฯลฯ
แต่การลงทะเบียน คนละครึ่ง การลงทะเบียนรับเงินเยียวยาในมาตรการต่างๆ กลับสวนทาง คึกคักเป็นที่ยิ่ง
สังเกตบ้างหรือไม่
ล้านสิทธิ ยี่สิบ สามสิบ สี่สิบล้านสิทธิเกลี้ยงในพริบตา
ขณะที่จำนวนผู้ลงทะเบียน-ดาวน์โหลด ใกล้เคียงกับคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตที่พรรคพลังประชารัฐได้รับราว 8 ล้านเสียง
เป็นไปได้หรือไม่ว่า ที่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือนั้นมาจากเหตุผลการเมือง
โจทย์เก่า ปัญหาเดิมที่รัฐบาลแก้ไม่ตก และมีแนวโน้มจะเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบายต่อไป
รัฐบาลที่ทำอะไรมีแต่คนตั้งคำถาม และไม่ได้รับความร่วมมือ
หากไม่แก้ไข ลดจำนวนเสียงนั้นลง
ยากที่จะบริหารประเทศได้อย่างราบรื่น
จำลอง ดอกปิก
