สถานีคิดเลขที่ 12 : เทียบไม่ได้

สถานีคิดเลขที่ 12 : เทียบไม่ได้ สําหรับคนทั่วไปเป็นเรื่องที่อดไม่ได้หรอกว่า

สถานีคิดเลขที่ 12 : เทียบไม่ได้

สําหรับคนทั่วไปเป็นเรื่องที่อดไม่ได้หรอกว่า เมื่อเมียนมาเกิดรัฐประหารแล้วจะไม่คิดถึง หรือไม่เปรียบเทียบกับรัฐประหารของไทย

แต่บางคนบอกว่า อย่าไปเปรียบเทียบเลย เพราะไม่ช่วยอะไร ควรจะเสนอทางออกที่สร้างสรรค์ดีกว่า

555 อ่านแล้วอยากจะพิมพ์เลขห้าต่อกันให้เป็นประโยคยาวๆ พร้อมคำถาม รัฐประหารไปแล้วยังมีทางออกที่สร้างสรรค์ได้ด้วยหรือ ถ้ามี ป่านนี้ไทยแลนด์น่าจะสร้างสรรค์กันบรรเจิดไปหลายรอบแล้วกระมัง

Advertisement

คงไม่ลำบากให้เด็กๆ นักเรียนนักศึกษาออกมาชุมนุมถามว่า เมื่อไหร่ลุงๆ ป้าๆ จะตาสว่างและเลิกจมจ่อมอยู่ในความล้าหลังทางการศึกษา-การเมืองเสียที เมื่อไหร่จะตั้งหลักประชาธิปไตยได้ เมื่อไหร่เลิกฝันว่า โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้วจะปราบโกงได้ และเมื่อไหร่จะเลิกใช้อำนาจมากดและปิดกั้นคนอื่นที่คิดว่าเป็นเด็กกว่า และด้อยโอกาสกว่า ฯลฯ

เหตุการณ์ล่าสุดที่มีคนพม่าที่อยู่ในกรุงเทพฯไปชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา เหมือนกับชุมชนชาวพม่าในประเทศอื่นๆ ที่เขาต้องการต่อต้านการรัฐประหารของไทยกลับถูกทางการสั่งห้าม บอกว่าไม่อนุญาตให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งใช้ดินแดนประเทศไทยเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

555 อ่านนี้ก็อยากจะพิมพ์เลขห้าต่อยาวๆ อีกห้ารอบ

Advertisement

การชุมนุมแค่แสดงออกทางความคิดเห็นว่า ฉันไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร มันถูกเหมารวมไปกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่กระทบความสัมพันธ์ขนาดนั้นได้อย่างไร

ถ้าจะกระทบขนาดนั้นมันต้องระดับซ่องสุมกองกำลัง หรือตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ไม่ใช่หรือ

แต่นี่แค่แสดงความเห็นต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งแสนจะเป็นเรื่องสากล และปกติธรรมดาเสียนี่กระไร ถ้าทำแค่นี้ไม่ได้ มันจะยิ่งบอกว่ารัฐบาลไทยมีอะไรในใจอย่างนั้นหรือ มีอะไรตำใจอยู่หรือไม่ ที่ประณามการรัฐประหารไม่ได้ หรือทำไม่ได้แม้แต่แสดงความห่วงกังวลที่เห็นผู้นำพลเรือนถูกควบคุมตัว และสมาชิกรัฐสภาถูกขัดขวางเปิดประชุมแบบฟ้าผ่า

ที่สำคัญคือ การเลือกตั้งถูกคว่ำเหมือนกับไม่เห็นหัวประชาชน คะแนนเสียงของประชาชนที่ฝ่าความหวาดกลัวโรคโควิดไปเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย.2563 ไม่มีความหมายอะไรเลยหรือ

ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่ทหารพม่าเคยยึดอำนาจตั้งแต่เมื่อปี 2533 อย่างยาวนาน นั่นก็ล้มผลการเลือกตั้งเหมือนกัน

ถ้ามองประเด็นที่เสียงของประชาชนถูกทำให้หมดค่าแล้ว การรัฐประหารของไทยและเมียนมาย่อมคล้ายกัน

แต่จะบอกว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ก็ไม่ว่าอะไร เพราะมีหลายๆ รายละเอียดที่ไทยและเมียนมาไม่เหมือนกัน

เช่น เมียนมาไม่มีมวลชนขนาดใหญ่ออกมาชุมนุมเรียกกองทัพมารัฐประหารไล่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง ทหารอยากทำก็ทำเองเลย จะด้วยผลประโยชน์ หรือแรงจูงใจอะไรก็แล้วแต่

พอเกิดรัฐประหารแล้ว มีดารานายแบบดังของเมียนมาโพสต์ต่อต้านรัฐประหารทันที ทำอย่างเปิดเผยด้วยไม่ต้องกลัวกระทบถูกยกเลิกงานแบบดาราไทย เพราะฝ่ายเป่านกหวีดไม่ชอบ

หรือกองทัพเมียนมายังไม่มีนักการเมืองฝ่ายพลเรือนเข้าร่วมตั้งรัฐบาลชุดใหม่ผสมกลมเกลียวเป็นเนื้อเดียวกัน

ฉะนั้น ถ้าจะบอกว่าเทียบไม่ได้ ก็มีมุมที่เทียบไม่ได้จริงๆ

ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image