ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
คณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญพิจารณาวาระ 2 โดยลงมติรายละเอียดในมาตรา 256 กันไปแล้ว
เท่าที่ติดตามข่าวสาร แม้จะสับสนกันบ้าง แต่ในที่สุดเมื่อเคลียร์ชัด ต้องถือว่าคณะกรรมาธิการที่ประกอบด้วยพรรคฝ่ายรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน และวุฒิสภา มีความพยายามจะสมานฉันท์
มีความเข้าใจในแนวทางที่อยากจะให้การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นทางออกของประเทศ
ทางออกแรกที่คณะกรรมาธิการมีมติ นั่นคือ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับที่มาของ ส.ส.ร.
เห็นว่า ส.ส.ร.จำนวน 200 คน ที่จะทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญนั้นให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
นี่หมายความว่า เปิดทางให้ประชาชนเลือกตัวแทนเข้าไปยกร่างกติกากันใหม่
ทางออกที่สองคณะกรรมาธิการได้กำหนดขั้นตอนหลังจาก ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว
กำหนดให้รัฐสภาอภิปรายได้แต่ไม่ให้ลงมติ
แต่ให้ส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ ส.ส.ร.ร่างขึ้นไปให้ กกต.จัดการทำประชามติโดยตรง
ใช้เสียงของประชาชนเป็นผู้ตัดสิน
ตัดข้อครหาเรื่องการใช้กลไกรัฐสภาเข้ามาเกี่ยวข้อง
ต้องยอมรับว่ารัฐสภาชุดปัจจุบัน สมาชิกวุฒิสภาถูกวิพากษ์วิจารณ์มากว่ามีที่มาจาก คสช.
ดังนั้น การเปิดทางให้ประชาชนเลือกตั้ง ส.ส.ร.เป็นตัวแทนในการยกร่าง
และการให้ประชาชนทั่วประเทศลงมติอีกครั้งหลังจาก ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา
ถือว่ากรรมาธิการต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมการร่างกฎกติกาของประเทศเต็มที่
และไม่ให้สมาชิกรัฐสภาปัจจุบันเข้าไปเกี่ยวข้อง
การพิจารณาของคณะกรรมาธิการทำให้มองเห็นเจตนาดี
ต่อไปคณะกรรมาธิการจะส่งให้รัฐสภาลงมติในวาระ 2 หากผ่านพ้นไปได้ก็ทิ้งไว้ 15 วันก่อนจะมาลงมติวาระ 3
มติของคณะกรรมาธิการแสดงว่า หลายคนที่เคยตั้งการ์ดสูงเริ่มลดการ์ดลง
คนที่เคยมองแต่พวกพ้อง เริ่มมองเห็นประโยชน์ที่จะเริ่มต้นใหม่
เห็นประโยชน์ของคนส่วนรวมที่ต้องเริ่มต้นที่คนส่วนใหญ่
คนส่วนใหญ่ของประเทศก็คือประชาชน การเลือกตั้งและการประชามติคือกลไกการเลือกที่ใช้เสียงส่วนใหญ่ในการตัดสิน
แม้จะมีข้อกังวลใจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง การแทรกแซงการทำประชามติ
แต่ก็ยังดีกว่าสถานการณ์ทำประชามติในยุค คสช.
รัฐธรรมนูญที่ยกร่างขึ้นใหม่คงไม่สมบูรณ์แบบ ซึ่งก็ต้องมีการแก้ไข ไม่ใช่ฉีกทิ้ง
ถ้าแต่ละฝ่ายเห็นพ้องที่จะเริ่มต้นขับเคลื่อนประเทศโดยคนส่วนใหญ่
แนวทางของคณะกรรมาธิการที่จะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาก็น่าสนับสนุน
เพราะไม่มีใครรู้ว่า ประชาชนจะเลือก ส.ส.ร.แบบไหนเข้าไปทำหน้าที่
ไม่มีใครทราบว่า ประชาชนจะลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
แต่ทุกคนมองเห็นและรู้ว่า ด้วยวิธีดังกล่าว ประชาชนได้มีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นจนจบอย่างแน่นอน
ดังนั้น รัฐธรรมนูญที่ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นจนจบ น่าจะเป็นประโยชน์
น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของสมานฉันท์ที่คนไทยคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นในประเทศนี้มาหลายปี