สถานีคิดเลขที่ 12 : เมื่อต้องปรับ ครม.

สถานีคิดเลขที่ 12 : เมื่อต้องปรับ ครม. แม้ว่าจะไม่มีสัญญาณชัดเจน หลังการเปิด

สถานีคิดเลขที่ 12 : เมื่อต้องปรับ ครม.

แม้ว่าจะไม่มีสัญญาณชัดเจน หลังการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ 9 รัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าการปรับ ครม.จะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ด้วยผลจากคำพิพากษาคดี กปปส.ชัตดาวน์ ขัดขวางเลือกตั้ง เมื่อปี 2557 ย่อมมีผลอย่างแน่นอนต่อการปรับเปลี่ยนเก้าอี้รัฐมนตรี

เนื่องจาก นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ต้องพ้นจาก รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายถาวร เสนเนียม พ้นจาก รมช.คมนาคม และ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ต้องพ้นจาก รมว.ศึกษาธิการ ในทันที เมื่อโดนตัดสินให้จำคุก

แล้วเอาเข้าจริงๆ คงไม่แต่งตั้งเพียงแค่ 3 เก้าอี้นี้แน่นอน

Advertisement

ขณะที่ภายในรัฐบาลเอง กำลังเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล และระหว่างภายในพรรคหลักของรัฐบาลเอง

ความขัดแย้งที่ปรากฏให้เห็นชัดเจนจากการโหวตไว้วางใจ-ไม่ไว้วางใจ

ดังนั้น เมื่อมาถึงจุดที่การปรับ ครม.หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงอาจจะยิ่งขยายความร้อนแรงของการเมืองภายในรัฐบาลอีกก็เป็นได้ เก้าอี้ที่กุมงบประมาณและอำนาจ อาจถูกเขย่ากันอีกยกใหญ่

Advertisement

ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้…เสียมากกว่า

แต่จะว่าไปแล้ว ความคิดเห็นของคนในสังคม หลังจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ต่างเฝ้ามองการปรับเปลี่ยนในรัฐบาล

ด้วยชาวบ้านจำนวนไม่น้อยมองว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในการชำแหละรัฐมนตรีบางราย มีน้ำมีเนื้ออย่างมาก โดยคำตอบหรือคำชี้แจงจากรัฐมนตรีหลายคน ก็ไม่อาจเคลียร์ข้อกล่าวหาจากฝ่ายค้านได้ดีพอ

ในสายตาประชาชนที่รับฟังการอภิปราย ถือว่ารัฐบาลโดนเปิดบาดแผลเอาไว้อย่างพอสมควรทีเดียว

อีกทั้งชาวบ้านจำนวนไม่น้อยก็เห็นว่าตัวเลขคะแนนไว้วางใจและไม่ไว้วางใจที่ออกมา เข้าทำนองขัดสายตาคนดู

เป็นที่รู้กันว่า เต็มไปด้วยกระบวนการงูเห่า และการแจกกล้วย

ชนะในสภาด้วยกระบวนการที่รู้ๆ กันอยู่ ซึ่งไม่ใช่ชนะใจประชาชนคนดู

ดังนั้นที่พยายามทำนิ่งเฉยเรื่องการปรับ ครม. เหมือนไม่ให้ค่ากับผลงานการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล ในด้านอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน

แต่อีกนั่นแหละ แม้ว่าคำพิพากษาของศาลในคดีม็อบ กปปส. จะส่งผลให้ต้องปรับ ครม.แน่ๆ

ด้านหนึ่ง อาจจะเป็นตัวช่วยให้รัฐบาลมีทางออก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนกลับคืนมาได้ ถ้าหากปรับแล้วออกมาเป็นที่ถูกอกถูกใจ ทำให้มีความหวังว่าจะมาบริหารประเทศชาติให้เจริญรุดหน้า

แต่อีกด้าน ดูจากตัวบุคคลที่พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการปรับครม. ซึ่งเชื่อมโยงกับแกนนำกลุ่มมุ้งต่างๆ ก็ยังมองไม่เห็นว่า การปรับ ครม.จะทำให้ประชาชนรู้สึกดีขึ้น หรือแย่ลง

ทั้งเอาเข้าจริงๆ รัฐบาลที่มีฐานเสียง 250 ส.ว. เป็นเครื่องมือชี้ขาดการเมือง มีกองทัพเป็นฐานสนับสนุนใหญ่ มีอำนาจอะไรต่อมิอะไรค้ำยันอยู่

ก็คงไม่ต้องแคร์กระแสสังคมอะไรมากนัก

เอาเป็นว่าการปรับ ครม.ที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแน่ๆ นั้น คงจะมีเรื่องสนุกๆ ให้ชาวบ้านได้ดูกันอย่างเพลิดเพลิน

โดยอย่าไปคาดหวังอะไรมากมายนัก

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image