คอลัมน์หน้า 3 : เอกภาพ การเมือง ห้วง 1 ปี ก่อน ‘ยุบสภา’ รอยร้าว ขยายใหญ่
คำประกาศถึงความพร้อมต่อ “การเลือกตั้ง” ไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมาจากพรรคก้าวไกล เด่นชัดว่าเป็นการท้าทาย
ท้าทายต่อเสียงขู่ในเรื่อง “ยุบสภา”
ยิ่งหากมองผ่านคำประกาศถึงความพร้อมซึ่งมาจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ยิ่งมากด้วยความแหลมคม
เพราะ 2 ท่านนี้เป็น “หัวหน้าพรรค”
นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ใน “รัฐบาล”
เมื่อเสียงขู่ในเรื่อง “ยุบสภา” ดังออกมาจากภายในทำเนียบรัฐบาล คำประกาศจาก 2 พรรคใหญ่ที่ร่วมอยู่ในรัฐบาลยิ่งเท่ากับเป็นการท้าทาย
ท้าทายต่อ “การยุบสภา” ท้าทายต่อ “การเลือกตั้ง”
มีความจำเป็นต้องศึกษา “ความพร้อม” ที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งระหว่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ อย่างมีการจำแนกจากของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
เพราะพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ใน “รัฐบาล”
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล เป็นพรรค “ฝ่ายค้าน” แม้คำประกาศความพร้อมในการเลือกตั้งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ความธรรมดาในที่นี้ก็มีลักษณะพิเศษในทางการเมือง
มีคำถามต่อพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ว่าหากไม่กลัวต่อการยุบสภาและพร้อมที่จะเลือกตั้งเหตุใดจึงยังอยู่ร่วมรัฐบาล
นี่ย่อมเป็นเรื่องการเกาะเกี่ยวในทาง “ผลประโยชน์”
พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ย่อมต้องการประโยชน์ทางการเมืองเช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการของรัฐจากงบประมาณ
จึงเป็นการร่วมในลักษณะอันเป็นการต่อสู้
พลันที่มีคำประกาศ “ยุบสภา” ออกมาทุกอย่างในทางการเมืองก็เท่ากับเป็นการเริ่มต้นใหม่ ที่สำคัญเป็นอย่างมากคือการเริ่มต้นในการต่อสู้เพื่อชิงชัย
พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ย่อมมี “ยุทธศาสตร์” ของตน
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ก็มียุทธศาสตร์อันกำหนดขึ้นจากจุดแข็งจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ของตน
ในนั้นย่อมมีลักษณะ “ร่วม” ที่สำคัญ
นั่นก็คือ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ล้วนวางน้ำหนักทางการเมืองอยู่ที่ 350 เขตทั่วประเทศ
นั่นก็คือ ต้องการเอาชนะพรรคพลังประชารัฐ
กล่าวในทางยุทธศาสตร์อาจถือได้ว่าเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล กับเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ไม่แตกต่างกัน
เพียงแต่จะโค่นพรรคพลังประชารัฐอย่างไรเท่านั้น
แม้ความเชื่อในทางสังคมจะสรุปตรงกันว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นจาก 2 ปัจจัยสำคัญ คือ 1 ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณผ่าน และ 1 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเวลาก็อยู่ในกรอบภายใน 1 ปี
เวลา 1 ปีก่อนการยุบสภาจึงเป็นเวลาที่ไม่ได้สะท้อนความเป็นเอกภาพในทางการเมือง ตรงกันข้าม จะเป็นเวลาแห่งการต่อสู้และแย่งชิง
โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเป้าสำคัญ