สถานีคิดเลขที่ 12 : ไพ่ตายล้ม รธน.?

สถานีคิดเลขที่ 12 : ไพ่ตายล้ม รธน.? ประธานรัฐสภา นัดประชุมร่วมสมาชิก

ประธานรัฐสภา นัดประชุมร่วมสมาชิกศุกร์ที่ 10 กันยายนนี้
วาระสำคัญคือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส.ส.ระบบเขต ปาร์ตี้ลิสต์สัดส่วน 400:100
ร่างแก้ไขฉบับนี้เสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์

ผ่านความเห็นชอบวาระ 1 และ 2 ฉลุย
แต่วาระ 3 ไม่แน่นักว่าจะผ่านง่ายดาย
เนื่องจากเกิดปัญหาการเมือง เป็นปัจจัยใหม่ ที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจลงมติ

การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่การแก้ไทั้งฉบับติดขัดปัญหา ต้องล้มพับไป
เปลี่ยนเป็นการ แก้ไขรายมาตราแทน

เป็นรายมาตราที่ถูกวิพากษ์ว่า ดำเนินการอย่างเสียมิได้ เนื่องจากหัวใจของปัญหา บทบัญญัติที่ไม่เป็นประชาธิปไตยไม่ได้รับการแก้ไขแม้แต่น้อย
แต่เป็นเรื่องบัตร 2 ใบ ที่เอื้อประโยชน์พรรคการเมือง มากกว่าประชาชน

Advertisement

และเมื่อไม่แตะหน้าที่-อำนาจ ส.ว. ตัดข้อต่อท่อสืบทอดอำนาจทิ้ง
ใครต่อใครต่างคิดว่า วาระสาม ผ่านแน่นอน
แม้มีเงื่อนไข ต้องได้เสียง ส.ว.สนับสนุนขั้นต่ำ 1 ใน 3 ก็ตาม

ผลโหวตวาระ 1 และ 2 เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่า ส.ว.ไม่ขัดขวางการแก้ไข
แต่ทันทีที่มีปัญหาการซ่องสุมกำลัง ส.ส.
เกิดความวุ่นวาย แตกร้าวขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แม้สามารถเคลียร์จบ
สภามีมติไว้วางใจ ‘บิ๊กตู่’ ได้ไปต่อ

แต่เบื้องหลังเกมล้ม เปลี่ยนตัวนายกฯที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้น ว่ากันว่ามีการแตะมือหลายพรรค ข้ามขั้วฝ่ายก็มี
โยงไปถึงการกันรัฐมนตรีบางคน มิให้มีชื่อด่างพร้อย ถูกอภิปราย
โยงถึงพรรคเพื่อไทย

เป็นเพื่อไทย พรรคการเมืองใหญ่สุด ที่ให้การสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา บัตร 2 ใบ
เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อพรรค
เอื้อให้เติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด

พลังประชารัฐ พรรคใหญ่อันดับสอง ก็มองเห็นลู่ทาง โอกาสต่อยอดบัตร 2 ใบ เพิ่มจำนวน ส.ส.ให้มีมากขึ้นเช่นกัน
ตามแผนโจนทะยาน ยืน 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง โดยมีอำนาจต่อรองมากยิ่งขึ้น
มีทางเลือกเพิ่มขึ้น
จะเลือกเป็นรัฐบาลผสมกับเพื่อไทยพรรคเดียวก็ได้ พรรคอื่น หรือหลายๆ พรรคก็ได้

แต่เมื่อพรรคพลังประชารัฐประสบปัญหา ไม่เป็นเอกภาพ
บัตร 2 ใบ ยังใช่คำตอบของพลังประชารัฐอยู่หรือไม่
นี่แหละ ที่อาจทำให้วาระ 3 มีปัญหา
เพราะอาจนำมาสู่การทบทวนการตัดสินใจว่า ในที่สุดแล้ว หากแก้ไขสำเร็จ พลังประชารัฐ หรือเพื่อไทยกันแน่ ได้อานิสงส์สูงสุดจากบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

หากมองว่าเป็นเพื่อไทย หากมองว่าเป็นกระบวนการเดียวกันกับที่ก่อหวอด ล้มนายกฯในสภา
ชะตากรรมของการแก้รัฐธรรมนูญก็ถึงจุดจบ ในวันที่ 10 กันยายน

เสียงในสภาล่างนั้น ฝ่าย ส.ส.ยืนยันไม่เป็นปัญหา เมื่อเพื่อไทยเอาด้วย ประชาธิปัตย์ก็เจ้าของญัตติ พลังประชารัฐ ตกกระไดพลอยโจน
เมื่อรับวาระ 1-2 มาแล้ว กลับลำ ตอบคำถามลำบาก ก็ยกมือให้ไป
แต่ยังมีไพ่ในมืออีกใบ

ง่ายสุด เนียนสุด ก็กดปุ่ม เล่นผ่าน ส.ว. มือไม้ ที่ไม่ยึดโยง ไม่ต้องตอบคำถามประชาชนใดๆ
แนวโน้มวาระ 3 จึงลูกผี ลูกคน ไม่แน่นักว่าจะผ่านด่านฉลุยเหมือนวาระ 1-2
เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยน

บิ๊กๆ ผู้มีอำนาจ อาจต้องคิดหนัก
เลือกรักษาแต้มต่อ ข้อได้เปรียบจากกติกาปัจจุบันเอาไว้ต่อไป

ความขัดแย้งภายใน มันดับฝันพรรคโตกว่านี้
แก้เป็นบัตร 2 ใบ ก็เท่ากับยื่นดาบให้คู่ต่อสู้

บัตรอีกใบ คือปาร์ตี้ลิสต์ก็เสียเปรียบ คำถามที่เสนอเข้ามาคือ ใน ‘สภาพ’ เหลว เละอย่างนี้จะมีใครนักธุรกิจ นักบริหารมืออาชีพ ดี เด่น ดังหน้าไหน กล้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ

นี่คือสิ่งที่ผู้มีอำนาจตัวจริงอาจต้องคิดหนัก หากจะส่งสัญญาณให้ ส.ว.ไฟเขียว ประทับตราผ่านบัตร 2 ใบ

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image