ที่เห็นและเป็นไป : ‘โลกสวย’ไม่มีในการเมือง

ที่เห็นและเป็นไป : ‘โลกสวย’ไม่มีในการเมือง

การเมืองในช่วงที่ผ่านมา ดูจะสร้างความกังขากับผู้ที่ติดตามใกล้ชิดอยู่ไม่น้อย

ออกอาการคล้ายว่าจะไปไม่ไว้แล้วในฐานะผู้ทำหน้าที่นำประเทศย่างเข้าปีที่ 8 ด้วยดูจากผลงานที่ผ่านมาซึ่งแทบไม่มีอะไรพัฒนาดีขึ้นเลย ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างมีแนวโน้มไปในทางเลวร้ายเสียส่วนใหญ่

จนมีคำพูดว่า “รัฐบาลนี้อยู่ได้อีกยาว แต่ที่จะอยู่ไม่ได้คือประเทศ”

ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะรู้สึก นึก คิดไปทางนั้น

Advertisement

ด้วยเหตุนี้เอง คนที่ติดตามการเมืองใกล้ชิดจึงค่อนข้างสับสน เมื่อเห็นการแสดงออกของ “พล.อ.ประยุทธ์” เปี่ยมด้วยความมั่นใจยิ่งว่าจะเป็นผู้นำประเทศต่อไป อย่างไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้

อดีตผู้นำกองทัพที่ได้ฉันทานุมัติและเกื้อหนุนให้ทำรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เข้ามาวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และปราบปรามคนเห็นต่างอย่างเด็ดขาด ที่เหมือนจะไม่สนใจเลยว่าประชาชนรู้สึกอย่างไรกับอนาคตของชีวิตลูกหลานที่หดหายไปกับปฏิบัติการสำคัญของการเมืองหลังรัฐประหาร กลับทระนงองอาจในอำนาจ ดั่งรู้ว่าไม่มีใครจะมาทำให้เปลี่ยนแปลงเป็นอื่นได้

ทำไม “พล.อ.ประยุทธ์” ถึงมั่นใจอย่างมากว่า “อำนาจในมือจะมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน” ตลอดไป

Advertisement

มีคนจำนวนมากที่ไม่เชื่อ และคิดว่าน่าจะไปไม่รอดในเร็วๆ นี้

แต่แล้วหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจล่าสุด ที่ “พรรคฝ่ายค้าน” เชื่อมั่นว่าจะเป็นการซักฟอกนายกรัฐมนตรีครั้งสุดท้าย

เชื่อในทางที่ว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่น่าจะอยู่ยาวให้ต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจกันอีกในสมัยประชุมหน้า

เป็นความเชื่อที่ประสานไปในทางเดียวกับการเคลื่อนพลครั้งใหญ่ของมวลชน โดย “พลังเสื้อแดง” ที่นำโดย “ขุนพลใหญ่” อย่าง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” นำทัพออกมาเอง

เป็นการเคลื่อนประสานทั้งพลังในระบบรัฐสภา และพลังภายนอก

แต่แล้วความสงสัยของหลายๆ คนต่อ “ความมั่นใจในอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์” ก็ได้คำตอบ

หลังการจัดการอย่างเด็ดขาดกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ก่อนหน้านั้นเชื่อมั่นว่าตัวเองมีพลังอำนาจระดับ “เส้นเลือดใหญ่ ถ้าล่มจะหมายถึงรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ เพราะหัวใจจะขาดเลือด”

เช่นเดียวกับก่อนหน้านั้น ที่เชื่อกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังยืนอยู่ได้เพราะการบริหารเครือข่ายคอนเน็กชั่นอย่างเหนือชั้นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เชื่อกันว่าหากขาด “พี่ป้อม-พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” แล้ว “ตู่” จะอยู่ไม่ได้

แต่แล้วเมื่อถึงวันนี้ ทุกคนรู้แล้วว่าความเชื่อนั้นผิด

“พล.อ.ประยุทธ์” มีอำนาจล้นเหลือที่จะจัดการกับประเทศนี้ โดยไม่ต้องห่วงว่าขาดใครแล้วจะเอาตัวไม่รอด มีอำนาจเต็มที่จะจัดการอะไรก็ได้

ที่คิดว่าเป็น “เส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงหัวใจรัฐบาล” อย่าง “ร.อ.ธรรมนัส” แค่คิดถึงเรื่องราวที่จะตามมาอีกนับจากนี้ หลายคนก็ขนหัวลุก เพราะเอาเข้าจริงในช่วงที่ยังใช้งานได้ ก็ยังดูมีความสำคัญ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะเลิกใช้ ชัดเจนว่าไม่เหลืออะไรที่แสดงให้เห็นว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ยังให้ราคา

และดูจะเป็นเช่นเดียวกับที่เชื่อกันว่า “เครือข่ายอำนาจบริหารผ่าน พล.อ.ประวิตร”

การขยับตัวของ “พล.อ.ประยุทธ์” เที่ยวนี้แสดงให้เห็นว่า “นั่นเป็นแค่ยังใช้งาน”

หากวันใดที่ไม่คิดจะใช้ หรือไม่ไว้วางใจที่จะใช้ ทุกอย่างก็จบได้

ในช่วงที่ผ่านมา หลายคนอาจจะมีความหวังว่าการเมืองในรูปแบบใช้อำนาจเข้มข้นน่าจะเบาลงบ้าง เพราะชัดเจนว่าไม่ทำให้อะไรดีขึ้น

แต่หลังจากการเคลียร์อำนาจในสภาผู้แทนราษฎรให้เห็น

ยังมีใครบ้างที่กล้าสบตา “บิ๊กตู่” ด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความท้าทาย

ไม่เกี่ยวว่าประเทศจะเป็นอย่างไร ประชาชนจะมีความหวังในอนาคตหรือไม่ และจะเกิดเสียงเรียกร้องอย่างไร

การควบคุมศูนย์กลางอำนาจทำได้มั่นคง โดยไม่ต้องพึ่งพาความรู้สึกว่าจะอยู่ได้อย่างมีความฝันที่งดงามของใคร

สุชาติ ศรีสุวรรณ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image