| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง 3 ป. และ พรรคพลังประชารัฐ
บั่นทอนอายุไขรัฐบาล
จะอยู่สั้น-ยาวครบเทอม 4 ปีหรือไม่ จากนี้ไปขึ้นอยู่กับความสามารถในการแก้ไข สมานรอยร้าว ระหว่างพี่น้องตระกูล ป.
แต่หลักประกันขั้นต่ำสุด ในกรณีความขัดแย้งดำรงคงอยู่
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอย่างน้อย 9 เดือน
เนื่องจากขณะนี้ เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา
ไม่มีปัญหากระทบเสถียรภาพ
ไม่มีเรื่องให้ต้องลุ้น เสียงโหวต ไม่ว่ากฎหมายการเงิน ที่หากไม่ผ่าน รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ไม่มีการตรวจสอบสำคัญ ลงคะแนนชี้ชะตารัฐบาล
ทั้งนี้ เนื่องจาก กว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อีกครั้ง ก็สมัยประชุมสภา สามัญประจำปีใหม่ ที่จะเปิดฉากขึ้น 22 พฤษภาคม 2565
เมื่อไม่มีปัญหา ทำให้รัฐบาลพังพาบในขณะนี้
นายกรัฐมนตรีก็ไม่มีเหตุอันใด ต้องยุบสภา
เนื่องจากมีเป้าหมายชัดเจน อยู่ครบ 4 ปีอยู่แล้ว
ต่างกับการอยู่ท่ามกลางคมหอกคมดาบฝ่ายค้าน และมีปัญหาขัดแย้งร้าวลึกภายใน ในสมัยประชุมสภา ไตรมาสสองปีหน้า
ที่ฝ่ายการเมืองชี้ว่า อยู่ในภาวะอันตราย อาจถึงขั้นอยู่ไม่ได้
มีการประเมินกันว่า แนวโน้มที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะชิงยุบสภา ก่อนฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอก มีสูงยิ่ง
เพราะอย่างน้อย การยุบสภา ก็ทำให้อยู่ในสถานะ เป็นรัฐบาลรักษาการ
กุมความได้เปรียบในการลงสนามเลือกตั้ง อีกทั้งยังมีกติกาที่เอื้อต่อการสืบทอด
ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่นั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่สุด และเป็นอุปสรรคยิ่งยวด ต่อการบริหารของรัฐบาลอย่างแน่นอน
อย่างมิต้องสงสัย
กล่าวคือ สมัยประชุมหน้า ต่อให้ฝ่ายค้าน ไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ยากที่จะทำให้การบริหารราบรื่น
พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น คงไม่มีปัญหา
ส.ส.ไม่ว่าฝ่ายใด คงไม่โหวตคว่ำ
แต่ถ้าคิดจะออก พ.ร.ก.กู้เงินอีกสักฉบับ ซึ่งได้ขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะไว้แล้ว เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ กู้ซากปรักหักพังของเศรษฐกิจอันเป็นผลพวงจากวิกฤตโควิดอย่างที่ชาติต่างๆ ใช้เป็นโมเดลแก้ปัญหา
รัฐบาลอาจต้องคิดหนัก
จะผ่านหรือไม่
ความจำเป็นในสายตารัฐบาลมีแน่ ไม่กู้ไม่ได้ เนื่องจากงบประจำไม่เพียงพอต่อการกอบกู้ฟื้นฟูความเสียหาย
แต่ในมุมการเมือง ความไว้วางใจที่จะให้กู้ เป็นฉบับที่สามนั้น
ไม่มีใครรับประกันได้ ว่ารัฐบาลผู้ถูกกล่าวหา ไร้ซึ่งความสามารถบริหาร ล้มเหลวแก้ปัญหา
จะได้รับการประเคนโอกาส ให้กู้เงินอีกครั้ง มาแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อ ปฏิเสธความรับผิดชอบ ไม่ได้
ยิ่งเมื่อมีปัญหาขัดแย้งภายใน ก็ไม่กล้าเสนอผลักดัน
กลัวถูกคว่ำ ต้องลาออก อำนาจเปลี่ยนมือ
นี่เป็นที่มาของการประเมินว่า ยุบสภา อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
เป็นทางออกที่ดีที่สุด ก็เนื่องจากว่า เมื่อย่างเข้าสู่สมัยประชุมปี 65 สถานการณ์โควิดระบาดคงเบาบางลงมาก อยู่ในระดับคุมได้
แต่ผลพวงยังไม่หมดสิ้น
ที่ต้องเผชิญแน่นอน คือ วิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งขนาดปัญหาใหญ่มาก แต่เครื่องมือมีจำกัด จะกู้ก็สุ่มเสี่ยง
ฉะนั้นรัฐบาลไม่มีทางแก้ได้
ทางลงคือ ยุบสภา คืนอำนาจประชาชนตัดสิน อีกครั้ง
ยกภูเขาปัญหาออกจากอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยกให้เป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ มาจากการเลือกตั้ง พรรคการเมืองรณรงค์ นำเสนอนโยบาย นวัตกรรมแก้ใหม่ๆ
ตัดตอนปัญหา ปัจจุบันทิ้งปมอดีตเนียนๆ
หากได้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งมีเปอร์เซ็นความเป็นไปได้สูงมากจากข้อได้เปรียบนานัปการ
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีความชอบธรรม
ใครจะติฉินนินทาว่าได้
การยุบสภา ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาขัดแย้งภายใน ประชาชนไม่พอใจชุมนุมขับไล่รัฐบาลเท่านั้น
หากแต่ยังอาจเป็นตัวช่วย บิ๊กตู่ผงาด ยืดอกได้อีกครั้ง
จำลอง ดอกปิก
