บทนำ : รัฐมีเงินไม่พอ

บทนำ : รัฐมีเงินไม่พอ

บทนำ : รัฐมีเงินไม่พอ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงนโยบายประกันราคาข้าวว่า เป็นผลงานรัฐบาล ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง ส่วนการหาเงินเพื่อมาใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ดังนั้นไม่ว่าใครจะได้หน้าหรือไม่ได้หน้า กระทรวงการคลังต้องหาเงินมาเพื่อช่วยเกษตรกร เพราะเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ ในส่วนตัวแล้วระบบประกันราคาข้าวแม้จะเป็นการช่วยเกษตรกร แต่เป็นการทำให้เกษตรกรอ่อนแอ และการช่วยเหลือไม่รู้จะจบหรือสิ้นสุดเมื่อใด ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือการช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกร การพัฒนาพันธุ์ข้าว การส่งเสริมการแปรรูปข้าวให้มีมูลค่า แปรรูปเป็นเมนูอาหารยอดนิยม ช่วยยกระดับเกษตรกรอย่างยั่งยืน

วันรุ่งขึ้น นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ว่า โครงการประกันรายได้ เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่คิดและทำเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรมีความเข้มแข็ง มีหลักประกันในเรื่องรายได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านราคาผลผลิตที่มีผลโดยตรงกับรายได้ และความเป็นอยู่ของเกษตรกร เมื่อมีปัญหาเรื่องราคาข้าวพี่น้องชาวนาจะได้รับส่วนต่างรายได้ที่ขาดหายไป การที่นายสันติกล่าวหาว่า นโยบายประกันรายได้ ทำให้เกษตรกรอ่อนแอ จึงไม่เป็นความจริง ไม่ได้อ่อนแออย่างที่นายสันติพูด

การที่นายสันติ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การประกันราคาข้าวซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ย่อมทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ และอาจจะขยายกลายเป็นรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลอีกรอยหนึ่ง ส่วนต้นเหตุดังกล่าวเกิดจากข้าวราคาตก รัฐบาลใช้นโยบายประกันรายได้ แต่รัฐบาลกำลังเผชิญหน้ากับการหาเงินไปใช้ตามนโยบายดังกล่าว โดยวงเงินที่ต้องใช้ รวม 89,000 ล้านบาท งวดแรก ครม.อนุมัติให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จ่ายให้เกษตรกรแล้ว 13,000 ล้านบาท กระทรวงการคลังจึงต้องหาเพิ่ม จำนวน 76,000 ล้านบาท

Advertisement

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มีสาเหตุหลักมาจากรัฐไม่มีเงินเพียงพอในการใช้จ่าย รัฐบาลควรแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างเพื่อให้รัฐมีเงินเพียงพอในการบริหารจัดการ เพราะหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ รัฐบาลจะมีปัญหาการบริหารในด้านอื่นๆ ติดตามมาด้วย เพราะปัญหาที่ปรากฏให้เห็นในขณะนี้มาจากไม่มีเงินเพียงพอ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image