ผู้เขียน | สุชาติ ศรีสุวรรณ |
---|
ที่เห็นและเป็นไป : ยังไม่ถึงยุค‘คนของประชาชน’
ถึงวันนี้แม้จะมีจำนวน ส.ส.เกินครึ่งสภาผู้แทนราษฎร พอจะเรียกได้ว่ามีเสถียรภาพได้เต็มปากเต็มคำ แต่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้งต่างพากันเสียววูบวาบว่าจะเสี่ยงต่อ “สภาล่ม” เพราะองค์ประชุมไม่ครบหรือไม่ อยู่ทุกครั้ง
ไม่มีความมั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะพร้อมใจกันยืนยันในเสถียรภาพที่มีอยู่นั้น
ที่ชวนให้หวั่นวิตกไปกว่านั้นก็คือ ในวาระที่ต้องโหวตเพื่อผ่านกฎหมายสำคัญ จะเกิดการเบี้ยวเพื่อกดดันรัฐบาลซึ่งเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายหรือไม่
และกลายเป็นว่า ส.ส.บางกลุ่มจากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลไม่น่าไว้ใจที่สุด
เป็นบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีในสภาพที่ถูกกดดันอย่างแรง
และไม่เพียงอารมณ์ต่อบทบาทของสภาเท่านั้น เมื่อมองไปที่กระแสประชาชนในการแสดงออกต่อ พล.อ.ประยุทธ์กลับดูน่าสะทกสะท้านมากขึ้นอีก เพราะไม่ใช่แค่ปฏิเสธไม่ยอมรับที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ท่าทีที่หมิ่นแคลน เอือมระอา และขับไสไล่ส่งดูจะมากขึ้นทั้งปริมาณและเข้มข้นในสาระ ถ้อยความ คำพูดที่ต้องการให้เห็น
หากใครคนหนึ่งบอกว่า “หมดเวลา” ของ “พล.อ.ประยุทธ์” แล้ว เสียงส่วนใหญ่คล้ายจะเห็นไปในทางเดียวกัน
ให้ความรู้สึกว่าผู้นำคนต่อไปยากที่จะเป็น “พล.อ.ประยุทธ์”
แต่อีกมุมหนึ่ง มุมที่ลึกลงไปในพรรคพลังประชารัฐ และเครือข่ายที่สนับสนุนอำนาจนิยม กลับยกย่องให้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดที่จะส่งขึ้นเวทีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งสมัยหน้า
สำหรับกลุ่มผู้มีอำนาจในขณะนี้ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี หรือผู้มีบทบาทในพลังประชารัฐ กลับพากันห้อมล้อม “พล.อ.ประยุทธ์” กันล้นหลาม
คนที่สภา ในภาพรวมมองว่าน่าจะรอดยากทั้งจากความแตกแยกภายใน และคะแนนนิยม พร้อมๆ กับกระแสประชาชนอยู่ในอารมณ์ความรู้สึก “สิ้นหวัง” กับการบริหารจัดการประเทศ
กลับเป็นคนที่ “พรรคพลังประชารัฐ” และกลุ่มผู้มีบทบาทในชะตากรรมของประเทศชาติ กลับดูจะยกให้ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็น “ความหวังหนึ่งเดียวที่ดีที่สุด”
ยืนยันหนักแน่นที่จะเสนอชื่อเป็น “นายกรัฐมนตรี” ต่อไปในสมัยหน้า
เป็นผู้นำที่ดีที่สุดในพรรค เป็นแคนดิเดตที่มีความหวังที่สุดเท่าที่มีอยู่
เป็นความรู้สึกเดียวกับกระแสของฝ่ายอำนาจนิยมซึ่งเครือข่ายทรงพลังที่สุดในการกำหนดความเป็นไปทางการเมืองของประเทศขณะนี้
เครือข่ายที่ไล่ล้างคู่แข่งโดยไม่ต้องเลือกวิธีการอย่างสะดวกสบาย เพราะกลไกที่ดีไซน์แต่งตั้งไว้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรื่องราวที่เป็นไปเช่นนี้ ทำให้สถานะของ “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่ในสภาวะย้อนแย้งกันอย่างยิ่ง
ขณะที่ง่อนแง่นในการยอมรับของ ส.ส.ในสภา และเป็นผู้นำที่น่าอิดหนาระอาใจ หน่ายเหนื่อย ก่ออารมณ์เบื่อมากมายต่อกระแสประชาชนโดยทั่วไป
แต่ด้วยกลไกที่ดีไซน์ และแต่งตั้งผู้มาขับเคลื่อนอันทรงพลังสูงยิ่ง กลับทำให้ประเทศไทยดูเหมือนไม่มีทางเลือกอื่นเลย นอกจากต้องจำนนต่อชะตากรรมของประเทศที่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะสืบทอดอำนาจต่อไป
สภาวะเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าหาคำตอบอย่างยิ่ง
ว่าแท้ที่จริงแล้ว “ประเทศชาติและประชาชน” ไม่มีหนทางที่จะเลือกให้เป็นอย่างอื่น ด้วยโครงสร้างอำนาจที่ดีไซน์ไว้ และกลไกที่แต่งตั้งขึ้นควบคุมคอนโทรลไม่อนุญาตให้เป็นอื่น
หรือเหล่าเครือข่ายของอำนาจนิยมไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า
พล.อ.ประยุทธ์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หรือไม่มีใครยอมที่จะเป็นตัวเลือกให้กลุ่มคนเหล่านี้
สุชาติ ศรีสุวรรณ