สถานีคิดเลขที่ 12 : โผล่ไทยแล้ว โดย นฤตย์ เสกธีระ

สถานีคิดเลขที่ 12 : โผล่ไทยแล้ว ไม่ต้องตกใจเพราะถึงอย่างไรโควิดสายพันธุ์ใหม่

สถานีคิดเลขที่ 12 : โผล่ไทยแล้ว โดย นฤตย์ เสกธีระ [email protected]

ไม่ต้องตกใจเพราะถึงอย่างไรโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน ก็ต้องมาถึงประเทศไทย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงผลการตรวจล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จาก 800 ตัวอย่าง พบว่าเป็นสายพันธุ์เดลต้า 100 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจวันที่ 1 พฤศจิกายนถึง 4 ธันวาคม พบว่ามีเพียง 1 ราย ที่อาจติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน

ตัวอย่างที่มีแนวโน้มเป็นโอไมครอน 1 ราย นั้นมาจากนักท่องเที่ยวชาย ชาวอเมริกัน เดินทางจากสเปน เข้าสู่ระบบไม่กักตัว (Test and go)

Advertisement

เบื้องต้นพบว่ามีตำแหน่งพันธุกรรมที่หายไปเข้าข่ายว่ามีโอกาสเป็นโอไมครอน

และยิ่งตรวจในตำแหน่งเพิ่มเติม คือ T478K และ N501Y

พบว่าน่าจะเป็นโอไมครอนมากทีเดียว

Advertisement

ขณะนี้ตรวจพบเพียงรายเดียว ส่วนเคสอื่นๆ ยังไม่มี

สำหรับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนี้ มีข้อมูลเพิ่มเติมจากสหรัฐอเมริกาที่บอกว่า อาจจะไม่รุนแรงเท่าเดลต้า

หมายความว่า การแพร่ระบาดนั้นไวมาก แต่ความรุนแรงหลังจากติดเชื้อไม่แรงเท่าเดลต้า

ทั้งหมดนี้ยังไม่มีข้อสรุป เพียงแต่ส่งสัญญาณที่ดี

ทำให้มั่นใจว่าแนวทางการดำเนินการของโลกทั้งใบมาถูกทาง

นั่นคือส่งเสริมให้คนฉีดวัคซีนป้องกัน

ทำให้ลดโคม่า และลดการเสียชีวิตลงได้

สำหรับประเทศไทย เท่าที่ฟังขณะนี้เพียงแต่การ “ตรวจพบ” ไม่ได้มีการ “ระบาด”

แต่อย่างไรเสียก็คงต้องทำใจ เพราะการเข้าเมืองนั้นไม่ได้เข้ามาแบบปกติเสมอไป

หากบริเวณชายแดนมีสายพันธุ์โอไมครอนระบาด โอกาสที่จะแพร่กระจายในไทยก็มีสูง

ณ วันนี้ สิ่งที่ดีที่สุดยังคงเป็นการรักษามาตรการสาธารณสุข

ทุกคนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยสบู่ ฯลฯ

สถานที่ต่างๆ ควรจะรักษามาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

ไม่ว่าจะเป็น SHA ไม่ว่าจะเป็น Covid Free Setting หรือมาตรการอื่นๆ

เช่นเดียวกับภาครัฐที่ต้องเดินหน้าฉีดวัคซีนต่อไป

แม้ว่าจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย 100 ล้านโดสในวันที่ 5 ธันวาคม

แต่ก็ขอให้คนที่อยากฉีดได้ฉีด ส่วนคนที่ไม่อยากฉีด ต้องอธิบายชักจูงให้ฉีดกันต่อไป

ส่วนความมั่นคงชายแดน การเข้มงวดตรวจตรา จะช่วยให้สายพันธุ์ใหม่เข้ามาไทยได้ยากขึ้น

อย่าลืมว่า ระยะเวลามีความสำคัญ

สำคัญทั้งการป้องกัน การรับมือการระบาด รวมไปถึงการรักษา

ทุกนาทีที่สกัดการระบาดได้ ทุกวันที่ยอดผู้ป่วยใหม่ลดวูบ หมายถึงโอกาสในการขับเคลื่อนประเทศ

ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนธุรกิจ

เพราะทุกคนล้วนรู้ หากทุกอย่างต้องกลับไปยังจุดเก่า

ถ้ายังต้องล็อกดาวน์ ต้องเคอร์ฟิว ต้องปิดประเทศ

ทุกคนในชาติต้องได้รับความเดือดร้อน

ดังนั้น ในขณะที่โอไมครอนยังไม่ระบาด ทุกคนก็ต้องช่วยกันป้องกันมิให้เกิดการระบาด

ถ้าเลยช่วงปีใหม่ไป ไทยสามารถดูแลรักษาตัวได้ปลอดโรค

การก้าวเดินในปี 2565 ก็น่าจะสดใสตั้งแต่ต้นปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image