ที่เห็นและเป็นไป : ‘ชูคอ’ในเสียงสาปแช่ง

ที่เห็นและเป็นไป : ‘ชูคอ’ในเสียงสาปแช่ง

ที่เห็นและเป็นไป : ‘ชูคอ’ในเสียงสาปแช่ง

จํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่อวันที่พุ่งกระโดดจากกว่า 2,000 คน มาเป็นกว่า 7,000 คน เพียงชั่วข้ามคืน พร้อมทั้งข่าวคราวการเกิดคลัสเตอร์ใหม่มากมาย แต่ทางการไม่ประกาศใช้มาตรการเด็ดขาดเข้าจัดการเหมือนเมื่อก่อน

ไม่มีการล็อกดาวน์ ไม่มีการปิดสถานประกอบการ ไม่มีการปิดประเทศอย่างเข้มข้น ที่สั่งการให้จัดการคือการเตือนประชาชนให้ระมัดระวังป้องกันตัวเองเป็นหลัก จากการเคยสั่งห้ามเข้าประเทศก็กักตัวตามระยะเวลา

เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะมีความเข้าใจมากขึ้นในธรรมชาติของโรค แต่ที่แน่ๆ คือพิสูจน์แล้วว่า ความคิดแบบควบคุมพฤติกรรมคน การเลือกที่จะปิดประเทศนั้น ทำให้วิถีชีวิตในปัจจุบันอยู่ไม่ได้

Advertisement

รัฐบาลไม่มีทางรับมือไหวกับความเดือดร้อนของผู้คนที่วิถีชีวิตเปลี่ยนไป

มีแต่การผ่อนคลายให้ประชาชนใช้ชีวิตที่เป็นปกติให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้เท่านั้น จึงจะสามารถครองอำนาจอยู่โดยไม่ต้องทานกับแรงกดดันมากเกินไปได้

โควิดเป็นเรื่องหนึ่งที่สะท้อนชัดเจนว่าวิถีชีวิตทุกวันนี้ มีการเปิดโลกให้เชื่อมเข้าสู่กันให้มากที่สุดเท่านั้นจึงจะเป็นวิถีที่ขับเคลื่อนไปได้

Advertisement

ความจริงเมื่อครั้งที่มีการพูดถึง “โลกในคลื่นลูกที่ 3” อันหมายถึงก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทคโนโลยี ก็มีการทำนายกันไว้แล้วว่าจะเป็น “โลกไร้พรมแดน” ผู้คนทั้งโลกจะเชื่อมต่อกันเหมือนไม่มีประเทศ

ก่อนหน้านั้นภาพอาจจะไม่ชัดนัก เพราะมีรูปธรรมให้เห็นแก่การไปมาหาสู่โดยยานพาหนะที่มีประสิทธิภาพสูง เดินทางให้เร็ว ง่าย สะดวก และราคาถูกขึ้น อย่างมีเครื่องบินโลว์คอสต์ให้เดินทางกันได้โดยทั่วไป ประเทศต่างๆ เปิดให้เดินทางไปมาหาสู่โดยไม่ต้องมีวีซ่ามากขึ้น เหมือนใครจะไปไหนก็ได้ง่ายๆ ไม่ต้องมีเรื่องให้ต้องจัดการยุ่งยากมากมาย

แต่มาถึงวันนี้ เรื่องราวของ “โลกไร้พรมแดน” ไปไกลกว่านั้นมาก ไม่เพียงเทคโนโลยีการสื่อสารที่พัฒนาจนการติดต่อกันและกันของผู้คนทำได้ทั่วโลกโดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงน้อยคิด แค่ค่าบริการอินเตอร์เน็ตไม่กี่บาท และถูกลงเรื่อยๆ ด้วยรูปแบบการสื่อสารสารพัด ทั้งส่วนตัวเป็นกลุ่ม จนถึงวันนี้มีการสร้างโลกให้มีอวตารไปใช้ชีวิตร่วมกันในโลกสมมุติ หรือจักรวาลสมมุติไปแล้ว

แต่จะคนมีตัวตน มีที่ทาง มีกลุ่มชมรมที่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นอย่างไรในโลกเสมือนที่ไม่จำกัดด้วยดินแดนอีกต่อไป สามารถสื่อภาษาได้อย่างง่ายดายเพราะโปรแกรมแปล หรือเรียนรู้ภาษาของกันและกันที่ง่ายขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้นคือ เงินตราที่ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งของ หรือสินค้า กลายเป็นเงินดิจิทัลที่ไม่ขึ้นกับความเป็นชาติใดๆ เป็นสกุลเงินที่ใช้ร่วมกันทั้งโลก

หลายเรื่องก้าวข้ามเอกลักษณ์ความเป็นชาติ เป็นประเทศให้เห็นชัดๆ มากขึ้นเรื่อยๆ และใช้งานได้จริงอย่างที่คนในโลกเก่าไม่มีทางทำใจให้เชื่อได้

ด้วยเหตุนี้เองจึงประกาศกันว่า ประเทศใดก็ตามที่ผู้มีอำนาจพยายามฝืนความเป็นไปที่เกิดขึ้นนี้ จะกลายเป็นประเทศที่ล่มสลายเร็วกว่าประเทศอื่น

การนำพาประชาชนถอยหลังเข้าคลองไปมีชีวิตแบบมนุษย์ยุคถ้ำ คร่ำครึ ขยายความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้คนกลุ่มหนึ่งเสพสุขด้วยอำนาจที่เหนือกว่า ในความทุกข์ร้อนของคนส่วนใหญ่ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่มีทางที่จะอยู่ได้

เพราะไม่เพียงจะถูกต่อต้านจากโลกที่แสวงหาความเจริญรุ่งเรือง และความสุขสงบกับการเชื่อมต่อกันอย่างไร้พรมแดนเท่านั้น การใช้อำนาจเช่นนี้จะถูกต่อต้านจากประชาชนของประเทศตัวเอง ที่รับรู้ชะตากรรมที่ต้องจมปลักอยู่กับความเดือดร้อน ถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยเหตุของสังคมที่เหลื่อมล้ำ

ประเทศที่โอบอุ้มอำนาจที่ให้ชนชั้นหนึ่งเสพสุขจากความเหลื่อมล้ำ โดยกดข่ม รีดนาทาเร้นคนส่วนใหญ่ที่เสียเปรียบนั้น มีแต่จะต้องอยู่กับความขัดแย้งที่ก่อให้เกิดการต่อสู้ไม่รู้หยุดหย่อน

เป็นประเทศที่ไม่มีทางสงบ

ประชาชนไม่มีวันที่จะมีความสุข

และแน่นอนว่า ที่สุดแล้วไม่มีใครที่จะมีชีวิตสงบสุขกับประเทศแบบนี้

ผู้นำ หรือผู้ปกครองที่นำพาประเทศให้เคลื่อนไปในการขยายความเหลื่อมล้ำ จะต้องอยู่กับสายตาจงเกลียดจงชังของประชาชนส่วนใหญ่อย่างหนีไม่พ้น

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image