สถานีคิดเลขที่ 12 : ในซากปรักหัก‘พัง’

สถานีคิดเลขที่ 12 : ในซากปรักหัก‘พัง’ ในซากปรักหัก “พัง” ของ “พลังประชารัฐ”

ในซากปรักหัก “พัง” ของ “พลังประชารัฐ”

หนึ่งในผู้ที่น่าจะได้รับผลกระทบหนัก คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค

แต่พิจารณาให้ดีแล้ว พล.อ.ประวิตรได้รับผลกระทบหนักจริงหรือ

เพราะในด้านหนึ่ง การลงมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับ ส.ส.พลังประชารัฐรวม 21 คนนั้น

Advertisement

พี่ป้อม ก็สามารถนำไปเคลมกับ น้องตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ว่าช่วยปลดหอกข้างแคร่ไม่ให้ ร.อ.ธรรมนัส ทิ่มแทง พล.อ.ประยุทธ์ ได้อีกต่อไป

ซึ่งแม้จริงตามนั้น แต่ก็อย่างที่เราเห็น มติขับร.อ.ธรรมนัส ที่ พล.อ.ประวิตรดำเนินการนั้น

มิได้สร้างบาดแผล หรือความเจ็บช้ำ ให้กับ ร.อ.ธรรมนัสเลย

ตรงกันข้าม กลับกลายเป็นความปรีดาปราโมทย์ ให้แก่ผู้ถูกขับ ที่ได้พลังต่อรองเพิ่ม ด้วยเสียง 21 เสียง ผนวกกับเสียง “ฝากเลี้ยง” ไว้กับพรรคเล็กอีกจำนวนหนึ่ง

ทำให้ก๊วนถูกขับมีเสียงในสภาที่สามารถชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลได้อย่างมี “พลัง”

และพลังนี้ กำลังถูกนำไปบีบให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องปรับคณะรัฐมนตรีอย่างไม่มีทางเลี่ยง

ซึ่งตามกระแสข่าวที่ออกมาตอนนี้ มีข้อเสนอที่จะขอตำแหน่งรัฐมนตรีให้ก๊วนของ ร.อ.ธรรมนัส ถึง 2 เก้าอี้

ข้อเสนอ และข้อต่อรองนี้ พุ่งเป้าไปยัง พล.อ.ประยุทธ์โดยตรง เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร

ส่วน พล.อ.ประวิตร ลอยตัวสบายๆ ด้วยมิใช่เรื่องของพลังประชารัฐแล้ว

ซึ่งก็น่าสนใจ “พลเอก” ซึ่งเคยมากด้วยพลังอำนาจ จะต่อรองกับ “ร้อยเอก” ที่เคยปลดพ้นจากรัฐมนตรีมากับมืออย่างไร

เพราะหากจะรักษาเสียงในสภา เพื่ออยู่ในอำนาจต่อไป ก็อาจต้องยอมต่อการร้องขอจากร้อยเอกซึ่งก็น่าขื่นขมอย่างยิ่ง

ยอมแล้วก็ใช่จะจบ ตรงกันข้าม พล.อ.ประยุทธ์ยังต้องตกอยู่ในความไม่แน่นอนสำหรับอนาคตทางการเมืองของตนต่อไป

กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส คงไม่หนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีก

ยิ่งกว่านั้น พรรคพลังประชารัฐ แม้ พล.อ.ประวิตรจะเป็นหัวหน้าพรรค และโดยส่วนตัวยังหนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่

แต่เมื่อการเลือกตั้งครั้งใหม่เกิดขึ้น ท่ามกลางภูมิทัศน์การเมืองใหม่ ก็ยังไม่รู้ว่า พรรคพลังประชารัฐจะพลิกไปทางไหน อย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ อาจไม่ใช่ทางเลือก อีกต่อไป

ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเห็นเค้าลางแล้ว

นั่นก็คือ พรรคใหม่ของก๊วน ร.อ.ธรรมนัส

ที่ดูจะเป็นความ “เมตตา” ของ พล.อ.ประวิตรอย่างยิ่ง คือแม้จะขับไสไล่ส่งแต่ก็ยังอุตส่าห์หาพรรคใหม่ให้อยู่ โดยมีการขานชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย ขึ้นมา

พรรคนี้จะมีความเป็นมาอย่างไรไม่สำคัญ

แต่ที่น่าสนใจ คือ การฟอร์มทีมงานใหม่มากกว่า

ด้วยมีการขานชื่อ คนในตระกูล “วงษ์สุวรรณ” คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ จะเข้าไปเป็นที่ปรึกษา และมีการวางตัว พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ คนในคาถาของ พล.อ.ประวิตร เข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคแล้วผนึกรวมกับก๊วนของ ร.อ.ธรรมนัส

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็คือ พลังประชารัฐ สาขา 2 ดีๆ นี่เอง

แต่ที่จะเปลี่ยนไป อย่างมีนัยสำคัญ คือผู้ที่จะถูกชูขึ้นมาเป็นผู้นำ ไม่น่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ อีกแล้ว และที่จะมาแทน ก็อาจเป็นคนที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร หรือถ้าผิดไปจากนั้น ก็ไม่น่าจะพ้นกลุ่มของ พล.อ.ประวิตร ที่มิใช่ 3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์ อีกต่อไป

จึงอาจกล่าวว่าในซากปรักหักพังของพลังประชารัฐและรัฐบาลนั้น

พล.อ.ประวิตรยังกระย่องกระแย่ง “ยืนเด่น” อยู่

ซึ่งไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ที่ครวญเพลง “อย่ายอมแพ้” นอกจากสื่อไปยัง ร.อ.ธรรมนัสแล้ว

ยังหมายให้พี่ป้อมได้ “สะดุดหู” ด้วยรึเปล่า!?!

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image