พุทธคุณแห่งบทสวด ‘พาหุงมหากา’

ประมาณ 10 กว่าปีเศษที่ผ่านมา ครั้งหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้เคยเล่าถึงนิมิตของหลวงพ่อที่ได้พบกับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าสวนแก้ว มีลูกศิษย์ท่านทุกอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย มาขอความเมตตาจากหลวงพ่อ ท่านจะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกๆ ท่านได้สวดบทสวด “พาหุงมหากา” เสมอมาและต่อเนื่อง แม้แต่ผู้เขียนเองท่านก็กระตุ้นให้ได้สวดบทสวดนี้ต่อด้วยการสวด “ชินบัญชร” อีกด้วยเช่นกัน นิมิตดังกล่าวซึ่งเห็นว่ามีคุณูปการต่อเราอนุชนรุ่นหลังหากได้ทราบจะมีประโยชน์มาก ควรแก่การเผยแพร่ ความว่า

คืนหนึ่งอาตมานอนหลับแล้วฝันไปว่าอาตมาได้เดินไปในสถานที่แห่งหนึ่ง พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งครองจีวรคร่ำสมณสารูปเรียบร้อยน่าเลื่อมใส อาตมาเห็นว่าเป็นพระอาวุโส ผู้รัตตัญญู จึงน้อมนมัสการท่าน ท่านหยุดยืนหน้าอาตมาแล้วกล่าว กับอาตมาว่า

“ฉันคือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา” ฉันต้องให้เธอได้ไป “วัดใหญ่ชัยมงคล” เพื่อดูจารึกที่ฉันได้จารึกไว้ ถวายพระเกียรติแก่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้เป็นเจ้า เนื่องในวาระที่สร้างเจดีย์ฉลองชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชแห่งพม่า และประกาศความเป็นอิสระของประเทศไทยจากหงสาวดีเป็นครั้งแรก เธอไปดูไว้แล้วจดจำมาเผยแพร่ออกไป “ถึงเวลาที่เธอจะได้รับรู้แล้ว”

ในฝันอาตมารับปากท่าน ท่านก็บอกตำแหน่งให้แล้วก็ตกใจตื่นตอนใกล้รุ่ง อาตมาก็ทบทวนความฝัน ก็นึกอยู่ในใจว่าเราเองนั้นกำหนดจิตด้วย “กรรมฐาน” “มีสติอยู่เสมอ” เรื่องฝันเฟื่องฟุ้งซ่านไม่มี อาตมาก็ได้ข่าวในวันนั้นแหละว่าทางกรมศิลปากรทำการบูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ใหญ่ในวัดใหญ่ชัยมงคล และจะทำการบรรจุบัวยอดพระเจดีย์ อันเป็นนิมิตหมายการสิ้นสุดการบูรณะแล้วจะรื้อนั่งร้านทั้งหมดออกเป็นการเสร็จสิ้น

Advertisement

อาตมาจึงได้ขอร้อง ดร.กิ่งแก้ว อัตถากร ให้เลื่อนการปิดยอดบัวไปอีกวันหนึ่ง เพื่อที่อาตมาจะได้นำพระซุ้มเสมาชัย ซุ้มเสมาที่อาตมาได้สร้างขึ้นตามแบบดั้งเดิมที่พบในเจดีย์ใหญ่ใกล้กับวัดอัมพวัน ซึ่งพังลงน้ำที่ก๋งเหล็งเป็นคนรวบรวมเอามาให้อาตมาตั้งแต่เมื่อเริ่มพัฒนาวัดใหม่ๆ แต่แตกหักผุพังทั้งหลาย สิ้นปี อาตมาได้ป่นเอามาผสมสร้างเป็นองค์พระใหม่บรรจุไว้ที่ยอดพระเจดีย์บ้าง

วันนั้นอาตมาได้เดินทางไปถึงก็ได้เดินขึ้นไปบนเจดีย์ตอนที่สุดบันไดแล้วมองเห็นโพรงที่ทางเข้าทำไว้สำหรับลงไปด้านล่าง มีร้านไม้พอไต่ลงไปภายใน ตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่าลงไปคราวนี้ ถ้าพลาดตกลงไปจากนั่งร้านก็ยอมตาย คนที่ร่วมเดินทางมาด้วยเขามัวไปบนลายชั้นบน อาตมาก็ดิ่งลงชั้นล่าง มีไฟฉายทองหนึ่งอัน เวลานั้นประมาณ 09.00 น. อาตมาลงไปภายในแล้วก็พบนิมิตดังที่สมเด็จพระพนรัตน์ได้บอกไว้จริงๆ

อาตมาจึงได้พบว่าแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ท่านได้จารึกถวายพระพรก็คือ บทสวดที่ว่า “พาหุงมหาการุณิโก”

Advertisement

ท้ายนิมิตนั้นระบุว่า “เราสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ศรีอโยธเยศ คือผู้จารึกนิมิตจนาเอาไว้ถวายพระพรแด่มหาบพิตรเจ้าสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”

พาหุงมหากาก็คือบทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วก็พรพาหุงอันเริ่มด้วย

พาหุงสะหัส ไปจนถึง ทุคคาหะทิฏฐิ แล้วเรื่อยไปจนถึง มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ แล้วจบลงด้วย ภะวะตุ สัพพะมังคลัง สัพพะธัมมา พระสังฆานุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุ เต อาตมาเรียกบทสวดดังกล่าวกันว่า “พาหุงมหากา”

อาตมาจึงเข้าใจในบัดนั้นเองว่า “บทพาหุง” นี้คือบทสวดมนต์ที่สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ได้ถวายให้ “พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ไว้สวดเป็นประจำเวลาอยู่กับพระมหาราชวังและในระหว่าง “ศึกสงคราม” จึงปรากฏว่า พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าทรงรบ ณ ที่ใดทรงมีชัยชนะอยู่ตลอดมามิทรงเพลี่ยงพล้ำเลย แม้จะเพียงลำพังสองพระองค์กับสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า ท่ามกลางกองทัพพม่านับจำนวนแสนคนก็ทรงมีชัยชนะเหนือกองทัพพม่าด้วยการกระทำ
“ยุทธหัตถี” มีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราช ณ ดอนเจดีย์ปูชนียสถาน แม้ข้าศึกจะยังยิงเข้าใส่พระองค์ในตอนที่เข้ากันพระศพของพระมหาอุปราชออกไปราวกับห่าฝนก็มิปาน แต่ก็มิได้ต้องพระองค์ด้วยเดชะพาหุงมหากาที่ทรงเจริญอยู่เป็นประจำนั่นเอง

อาตมาพบนิมิตแล้วก็ได้ขึ้นมาด้วยความสบายใจ ถึงปากปล่องที่ส่งลงไปใช้เวลาเกือบราวชั่วโมง เนื้อตัวมีแต่หยากไย่เดินลงมาแม่ชีเห็นเข้ายังถามว่า “หลวงพ่อเข้าไปในโพรงนั้นมาหรือ” แต่อาตมาไม่ตอบ

ตั้งแต่นั้นมาอาตมาจึงสอนการสวดพาหุงมหากาให้แก่ญาติโยมเป็นต้นมา เพราะอะไร? เพราะ “พาหุงมหากา” นั้นเป็นบทสวดมนต์ที่มีค่ามากที่สุด มีผลดีที่สุด เพราะเป็นชัยชนะอย่างสูงสุดของพระบรมศาสดาจากพญามารวสวัตตี จากอาฬาวกยักษ์ จากช้างนาฬาคีรี จากองคุลีมาล จากนาง
จิญจมาณวิกา จากสัจจกนิครนถ์ จากพญานันโทปนันทนาคราช และท่านท้าวพกาพรหม เป็นชัยชนะที่พระพุทธองค์ทรงได้มาด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ และด้วยอำนาจแห่งบารมีธรรมโดยแท้ ผู้ใดให้สวดไว้เป็นประจำทุกวันจะมีชั่วขณะมีความเจริญรุ่งเรืองครองกาลนาน มีสติระลึกได้ จะตายก็ไปสู่สุคติภูมิ

หลวงพ่อจรัญจะบอกเสมอว่า “ขอให้ญาติโยมสวดพาหุงมหากากันให้ทั่วหน้า นอกจากจะคุ้มตัวแล้วยังคุ้มครองครอบครัวได้ สวดกันมากๆ เข้า สวดกันทั่วประเทศก็ทำให้ประเทศไทยมีแต่ความรุ่งเรือง พวกคนพาล สันดานหยาบ ก็แพ้ภัยไปอย่างถ้วนหน้า”

ไม่ใช่แต่พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเท่านั้นที่พบความมหัศจรรย์ของบทพาหุงมหากา แม้ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากมหาราช” ก็ทรงพบเช่นกัน โดยมีบันทึกโบราณบอกไว้ว่าดังนี้

“เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชตีเมืองจันทบุรีได้แล้ว ก็ทรงเห็นว่าสงครามกู้ชาติต่อจากนี้ไปจะต้องหนักหนาและยืดยาว จึงทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระยอดธงแบบศรีอยุธยาขึ้นแล้วนิมนต์พระเถระทั้งหลายมาสวดบท ‘พาหุงมหากา’ บรรจุไว้ในองค์พระและพระองค์ก็ทรงเจริญรอยตาม ‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’ ด้วยการเจริญ ‘พาหุงมหากา’ จึงบันดาลให้ทรงกู้ชาติได้สำเร็จ”

ท้ายสุดนี้ ขอเชิญชวนทุกๆ ท่านที่เป็นแฟนมติชน และประชาชนทั่วไปสวด “พาหุงมหากา” กันให้ได้ทุกคนทุกวัน สวดให้ได้มากๆ จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า สวดพาหุงมหากาก่อนแล้วจึงสวด “ชินบัญชร” เพราะชินบัญชรนั้น เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านใช้สวดบูชา “พระอรหันต์” ของท่าน ต้องสวด “พาหุงมหากา” ก่อนแล้วจึงมาถึง “ชินบัญชร” ให้จดจำกันเอาไว้นั่นแหละ คือ “มงคลชีวิต” ถ้า “สวดตลอดปี ชีวิตดีตลอดไป” ไงเล่าครับ

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.นพ.วิชัย เทียนถาวร
อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image