สถานีคิดเลขที่ 12 : ลุ้นงบปี’66

สถานีคิดเลขที่ 12 : ลุ้นงบปี’66 การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย

การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 2 มิถุนายน ยังเป็นเรื่องที่น่าติดตาม

ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณที่กำลังพิจารณา วงเงินจำนวน 3.185 ล้านล้านบาท

10 กระทรวงและหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรมาก ได้แก่ อันดับ 1 งบกลาง 5.9 แสนล้านบาทอันดับ 2 กระทรวงศึกษาธิการ 3.259 แสนล้านบาท แต่ลดจากงบปี 2565 จำนวน 4.5 พันล้านบาท อันดับ 3 กระทรวงมหาดไทย 3.255 แสนล้านบาท

อันดับ 4 กระทรวงการคลัง 2.85 แสนล้านบาท อันดับ 5 ทุนหมุนเวียน 2.06 แสนล้านบาทอันดับ 6 กระทรวงกลาโหม 1.97 แสนล้านบาท โดยลดจากงบปี 2565 จำนวน 4.3 พันล้านบาทอันดับ 7 กระทรวงคมนาคม 1.8 แสนล้านบาท

Advertisement

อันดับ 8 รัฐวิสาหกิจ 1.62 แสนล้านบาท อันดับ 9 กระทรวงสาธารณสุข 1.56 แสนล้านบาทและอันดับ 10 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1.26 แสนล้านบาท

งบประมาณดังกล่าวพรรคฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยตั้งแต่วาระรับหลักการ เพราะเห็นว่างบประมาณดังกล่าวจัดได้ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์

พร้อมกล่าวหาว่าเป็นงบที่ไม่สร้างความหวัง ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายงบหาเสียง ซื้อใจพรรคร่วมรัฐบาล รักษาสถานภาพตัวเอง

Advertisement

ข้อกล่าวหาเท่าที่นำเสนอ หากมีพยานหลักฐานจริงจัง จะทำให้การอภิปรายงบประมาณกลายเป็นการซ้อมใหญ่อภิปรายไม่ไว้วางใจเลยทีเดียว

แน่นอน งบประมาณที่ต้องถูกซัดหนักหนีไม่พ้นงบประมาณของกระทรวงกลาโหม แม้จะได้น้อยกว่าปีก่อน แต่ก็ยังมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการซื้ออาวุธ และการนำไปเปรียบเทียบกับกระทรวงอื่นที่ได้น้อยกว่า

นอกจากการอภิปรายงบประมาณครั้งนี้จะมีความน่าสนใจทางเศรษฐกิจแล้ว ยังมีความน่าสนใจทางการเมืองอีกด้วย

เพราะก่อนวันเวลาที่การพิจารณาจะเริ่มขึ้น พรรคฝ่ายค้านก็ประกาศคว่ำตั้งแต่วาระแรก ด้วยเหตุผลดังข้อกล่าวหา และเห็นว่าที่ผ่านมา เคยยกมือในวาระแรก โดยหวังให้ไปแก้ไขในวาระสอง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ไม่มีการแก้ไข

คราวนี้จึงประกาศด้วยท่าทีขึงขังว่าจะล้มร่าง พ.ร.บ.นี้ตั้งแต่เริ่ม

ทำได้หรือทำไม่ได้ ทำกันจริงหรือแค่ขู่ ก็ต้องติดตามกันไป

ต้องติดตามทั้งความกลมเกลียวของพรรคร่วมรัฐบาล และความพยายามของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะหาเสียงมาสนับสนุน

รวมไปถึงความเคลื่อนไหวของพรรคเศรษฐกิจไทย พรรคเล็ก และกลุ่ม 16 ที่มีความเคลื่อนไหวเข้มข้นกันมากในช่วงนี้

จากข้อมูล ส.ส.ในสภา นับเลขกี่ครั้งฝ่ายรัฐบาลก็มี ส.ส.มากกว่าฝ่ายค้าน

จำนวน ส.ส.ที่มีอยู่ 476 คน ฝ่ายรัฐบาลมี 268 คน ฝ่ายค้านมี 208 คน

แต่พอ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จากพรรคเศรษฐกิจไทยส่งเสียงขู่ว่ามี ส.ส.ในสังกัด 40 คน ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส กับ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ในเรื่องสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อไป

ความเห็นที่แตกต่างดังกล่าวทำให้สังคมจับตามองการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ อย่างไม่กะพริบตา

หากทั้งหมดนี้คือการโหมโรง เพื่อให้คนไทยติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นการโหมโรงที่ประสบความสำเร็จ

โดยเฉพาะกระแสข่าวคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบนั้น แม้จะยากที่จะเกิดขึ้น แต่สำหรับกลุ่มคนที่เห็นว่าบิ๊กตู่พอได้แล้ว ก็ถือเป็นความหวัง

หวังให้บิ๊กตู่ไป แต่จะชูใครขึ้นมาแทนนั้น ไม่ทราบ

เพราะหากเกิดอุบัติเหตุจากการโหวตจริง การเลือกตั้งน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นใหม่

แต่เหตุการณ์จะย่ำแย่ถึงขนาดนั้นหรือไม่ ต้องรอดู

นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image