บทนำ : 13 ก.ค.โหวตเลือกนายกฯ

บทนำ : 13 ก.ค.โหวตเลือกนายกฯ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างที่รอการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นประธานสภา ได้เชิญเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รองเลขาธิการสภา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการในเรื่องรับสนองพระบรมราชโองการฯ ซึ่งอาจจะเป็นช่วง 1-2 วันนี้ และเตรียมการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร และประชุมร่วมรัฐสภา โดยกำหนดว่าหากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว จะประชุมสภานัดแรกในวันที่ 12 กรกฎาคม มีระเบียบวาระเพียงให้ ส.ส.ที่ยังไม่ได้ปฏิญาณตนได้ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งจะปรึกษาหารือกันว่าจะประชุมสภาแต่ละสมัยจำนวนกี่วัน และวันไหนบ้าง

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีจะมีขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคม เวลา 09.30 น. ซึ่งได้มีการหารือกับ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เรียบร้อยแล้ว โดยทางสำนักงานเลขาธิการสภา จะออกหนังสือเชิญสมาชิกทั้งสองสภามาประชุมร่วมกันต่อไป ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังตอบคำถามสื่อมวลชน เรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีในส่วนของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล ที่มีแนวโน้มว่าจะโหวตไม่ผ่าน จะให้มีการโหวตกี่ครั้ง ว่า จำนวนครั้งคงพูดไม่ได้ ครั้งเดียวอาจจะผ่านก็ได้ คือได้ 376 เสียง แต่ถ้าไม่ครบก็ต้องพิจารณาการประชุมในรอบต่อไป โดยสรุปคือรัฐสภาต้องประชุมจนกว่าได้นายกฯ ไม่ใช่นายพิธาคนเดียว

บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ระบุว่า การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ ให้กระทําในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และมติเห็นชอบ ต้องมีคะแนนเสียง มากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา จำนวนสมาชิกสองสภาประกอบด้วย ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 250 คน รวม 750 คน เกณฑ์การตัดสิน ต้องได้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 376 เสียงนั่นเอง ทั้งนี้ ในกรณีเสียงเห็นชอบไม่ถึงเกณฑ์ ต้องจัดประชุมเพื่อโหวตเลือก จนกว่าได้นายกฯ เป็นไปตามที่ นายวันมูหะมัดนอร์ระบุ เนื่องจาก ไม่มีบทบัญญัติ กำหนดให้ดำเนินการ กรณีเสียงให้ความเห็นชอบของสองสภา มีคะแนนไม่มากกว่ากึ่งหนึ่ง

การโหวตให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นขั้นตอนสำคัญ ของการจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งขณะนี้มีเสียงเรียกร้องจากทุกภาคส่วน เร่งจัดตั้งรัฐบาล เข้ามาแก้ปัญหา ออกนโยบาย พัฒนาประเทศโดยเร็ว คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดหวังว่าการแต่งตั้งรัฐบาลจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ หากเร็วกว่าจะยิ่งส่งผลดีมากขึ้น และห่วงใย อาจเกิดความล่าช้า เนื่องจากความไม่ลงตัวทางการเมือง พรรคการเมืองที่รวบรวม ส.ส.ได้เป็นเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร จำนวนเสียงยังไม่ถึง 376 เสียงตามเกณฑ์การได้รับความเห็นชอบในการตั้งรัฐบาล การโหวตเลือกนายกฯวันที่ 13 กรกฎาคม เป็นความหวัง ภาคส่วนต่างๆ ฝากไว้กับสมาชิกของสองสภา อยากเห็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว

ADVERTISMENT