การส่งเรื่องร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ผ่านการลงมติเห็นชอบจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติไปแล้วให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ กำลังเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาว่าจะกระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้งล่าสุด ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะมีขึ้นในราวเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หรือไม่
หากเกิดผลกระทบทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปอีก ใครควรรับผิดชอบ คำมั่นสัญญาที่ว่าจะรักษาคำสัตย์ตามโรดแมปก็จะกลายเป็นหมัน ฝันกลางวันต่อไปเช่นเคย
ครับ จะไม่เป็นฝันค้างหรือฝันกลางวันได้อย่างไร ในเมื่อความเป็นจริงหมาดๆ เคยเกิดขึ้นมาแล้วยังอยู่ในความทรงจำของผู้คน
เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. แถลงถึงผลการดำเนินงานในรอบ 2 ปีของ คสช.ว่า ในห้วงเวลา 730 วันที่ คสช.เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ขอชี้แจงว่าตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พร้อมทั้ง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะเลขาธิการ คสช.
พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า ขอย้ำว่า คสช.ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตามกรอบโรดแมปเลย เพราะห้วงเวลาต่อไปต้องมีการลงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งเราสร้างความรับรู้ และเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิลงประชามติ จากนั้นอนาคตต้องจัดให้มีการเลือกตั้งในปี 2560
เพราะฉะนั้นขอย้ำว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และอยากให้เชื่อใจว่า คสช.รักษาคำมั่นสัญญาที่จะดูแลประชาชน พร้อมทั้งสร้างเกียรติภูมิชาติไทยในประชาคมโลก ให้มีเกียรติ ให้มีศักดิ์ศรี และมีฐานะเท่าเทียมทุกๆ ประเทศ ทำนองเดียวกันก็สร้างมิตรไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศต่างภูมิภาค ตลอดจนสร้างความมั่นใจให้ประชาชนไทยที่อยู่ในและต่างประเทศ
“ขอยืนยันว่า คสช.รักษาคำสัญญาว่าจะมีการ เลือกตั้งปี 2560 ตามโรดแมป เมื่อมีการลงประชามติถ้ารัฐธรรมนูญผ่านจะมีการจัดทำกฎหมายลูก จากนั้นจะมีการหาเสียง และการเลือกตั้ง ทว่าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติเราก็มีกระบวนการดำเนินการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามทุกอย่างยังคงเป็นไปตามที่กำหนดว่ามีการเลือกตั้ง 2560 และไม่มีอะไรผิดไปจากนี้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากไม่มีการเลือกตั้งปี 2560 คสช.จะดำเนินการอย่างไร ทีมโฆษก คสช.กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ และขอย้ำว่าเราไม่สืบทอดอำนาจอีก 5-10 ปี เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎกติกาที่เราสัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งขอให้เชื่อมั่นขอให้วางใจ และติดตามการทำงานของ คสช.และรัฐบาล
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ปีหน้า 2562 จะมีการเลือกตั้งตามคำมั่นสัญญาใหม่ล่าสุด ปรากฏว่าเกิดมีเสียงเรียกร้องจากกลุ่มพลังทางการเมืองขอให้ยุบ คสช.เหลือแค่รัฐบาลดูแลการเลือกตั้ง
ปรากฏว่าหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรียืนกรานต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 265 ให้ คสช.ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญยังคงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกเข้ารับหน้าที่
คสช.ต้องอยู่ต่อไป ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎ กติกา รัฐธรรมนูญ
สิ่งที่น่าคิดพิจารณาคือความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญ เมื่อเทียบเคียงกับฉบับ พ.ศ.2550 ซึ่งใช้บังคับสมัยรัฐบาลที่แล้ว ก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557
มาตรา 180 รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งเมื่อ (1) ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (2) อายุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงหรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร (3) คณะรัฐมนตรีลาออก
มาตรา 181 คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ แต่ในกรณีพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 180 (2) คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่จำเป็นภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
รัฐบาลรักษาการในเวลานั้น ถ้าจำไม่ผิด คุณชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าต้องรักษาการต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
แล้วปรากฏเป็นอย่างไร รัฐธรรมนูญเป็นหมัน เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งไม่พูดด้วยกฎหมายแต่พูดด้วยปืน
มาถึงคราวนี้ ปืนพูดได้ ยืนยัน ยืนหยัดตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 265 คสช.ต้องอยู่ต่อไป
ความต่างระหว่างการอ้างกฎหมายโดยไม่มีปืนกำกับ กับมีปืนกำกับ ย่อมต่างมาตรฐานกัน อย่างนี้แหละครับ
เอวังก็มีด้วยประการ ฉะนี้
