สานสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ ผ่านทายาทแฝดอิน-จัน

เป็นเรื่องน่ายินดีของชาวสมุทรสงครามอย่างยิ่งที่ระหว่างวันที่ 10-12 พฤษภาคมนี้ จะได้ต้อนรับทายาทของแฝดสยามอิน-จัน รุ่นที่ 4 และ 5 นำโดย Mr.Zack Worrell Blackmon Jr. (นายแซ็ค โวเร็ล แบล็คมอน จูเนียร์) ทายาทรุ่นที่ 5 พร้อมคณะ รวม 14 คน ที่จะมาร่วมงานคืนถิ่นแฝดสยามอิน-จัน ณ อนุสรณ์สถานแฝดอิน-จัน ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เพื่อรำลึกถึงแฝดสยามอิน-จัน

และเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมฉลองครบรอบ 185 ปี ในปี 2561 การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐ

ย้อนอดีตไปประมาณเกือบ 200 ปี มีฝาแฝดที่เกิดในจังหวัดสมุทรสงคราม หรือเมืองแม่กลองคู่หนึ่งชื่อ อินและจัน ซึ่งเป็นฝาแฝดที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก จนได้รับการยกย่องเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก

Advertisement

อินจัน แฝดสยามคู่นี้ เกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2354 ที่บ้านเรือนแพริมน้ำใน จ.สมุทรสงคราม

บิดาเป็นชาวจีนจากผืนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ “ทีอาย” ส่วนมารดา เป็นคนไทยชื่อ “นก” มีอาชีพทำประมง

เมื่อแรกเกิดอิน-จัน มีร่างกายสมประกอบทุกประการเว้นแต่ที่แผ่นหน้าอกที่ติดกันเป็นแถบกว้างและมีสะดือเดียว

Advertisement

พออายุได้ 18 ปี ประมาณ พ.ศ.2372 (4 ปีก่อนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี 2376) มีชาวอเมริกัน คือกัปตัน คอฟฟิน และนายโรเบิร์ต ฮันเดอร์ เจ้าของโรงมหรสพในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเดินทางมาค้าขายที่เมืองแม่กลองกับเรือสินค้าชื่อ “แชคแฮม” จึงเจรจากับนางนกขอตัว “อิน-จัน” ไปอเมริกาและอังกฤษ

กระทั่งไปสร้างชื่อเสียงที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จนได้รับการขนานนามว่า “สิ่งมหัศจรรย์ อันดับ 8 ของโลก”

เมื่ออายุได้ 31 ปี อิน-จัน ได้พบรักกับ ซาร่า เยสท์ และอาดิเลด เยสท์ ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายเอวิท เยสท์ ชาวไร่ด้วยกัน หลังแต่งงาน ได้สร้างบ้านแยกกันให้ภรรยาอยู่คนละหลัง ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร

ต่อมา “จัน” ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2414 พอ “อิน” ทราบว่าจันตายอีกเพียง 2 ชั่วโมงต่อมาอินก็เสียชีวิตตามไป

และเนื่องจากอินและจันเป็นคนเกิดที่จังหวัดสมุทรสงคราม ในปี 2537 จึงมีการก่อสร้างอนุสรณ์สถานแฝดสยามอิน-จัน ขึ้นที่ริมถนนเอกชัย หมู่ 4 ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุของทางราชการ

โดยมี นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร ผวจ.สมุทรสงคราม ในขณะนั้น เป็นประธานในการจัดการสร้าง ด้วยการรวบรวมทุนจากภาครัฐและเอกชนจำนวนหนึ่ง มอบหมายให้นายสงัด ใจพรหม ผู้มีความสามารถและความชำนาญในด้านการสร้างหุ่นจำลอง เป็นผู้ออกแบบรูปหล่อเหมือนฝาแฝดสยามอินจัน เป็นพื้นทองสัมฤทธิ์ ขนาดเท่าตัวจริง สูง 2.50 เมตร กว้าง 1.20 เมตร เมื่อสร้างเสร็จ ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ที่ฐาน โดยมีนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในช่วงนั้นมาเป็นประธานในพิธี

แฝดสยามอินจันได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากในอดีตแทบไม่มีใครรู้จักประเทศไทย แต่พออินและจันไปแสดงโชว์ความสามารถและแสดงกิจกรรมต่างๆ ในต่างประเทศ ในชื่อ “Siamese Twin” หรือ “แฝดสยาม” ทำให้ได้รับการกล่าวขานทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และตั้งรกรากที่เมืองเมาท์ แอรี รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ก่อให้เกิดผู้สืบเชื้อสายของแฝดสยามอินจัน ซึ่งใช้นามสกุล Bunker กว่า 4,000 คน

ทุกปีทายาทของแฝดอิน-จัน จะจัดงาน “วันรวมญาติทายาทแฝดอินจัน” ทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมเพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษคืออินจันที่เมืองเมาท์ แอรี ซึ่งอินและจันใช้ชีวิตมากกว่า 30 ปี

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทายาทรุ่นที่ 4 และ 5 ของแฝดอินจัน ได้แจ้งทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ว่าประสงค์ทำความรู้จักกับสถานที่เกิดของบรรพบุรุษที่จังหวัดสมุทรสงคราม และพิจารณาความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงข้อเสนอการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดสมุทรสงครามกับเมืองเมาท์ แอรี และการสร้างอนุสาวรีย์แฝดอินจันขึ้นที่เมืองเมาท์ แอรี และจะศึกษารูปแบบการจัดสร้างอนุสาวรีย์แฝดอิน-จัน เพื่อให้ทายาทเกิดความผูกพันและดำเนินการสานสัมพันธ์กับประเทศไทยต่อไป พร้อมกันนี้ทายาทของแฝดอินจันจะเดินทางมาจังหวัดสมุทรสงครามด้วย

นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า จังหวัดได้กำหนดจัดงานคืนถิ่นแฝดสยามอิน-จัน ระหว่างวันที่ 10-12 พ.ค.2561 โดยวันที่ 10 พ.ค.2561 เวลา 15.30 น. หัวหน้าส่วนราชการใน จ.สมุทรสงคราม ให้การต้อนรับครอบครัวบังเกอร์ (Bunker) พร้อมลงนามในประกาศความตั้งใจในการกระชับความร่วมมือระหว่างผู้แทนครอบครัวบังเกอร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นพยาน

เวลา 16.00 น. กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงต่างประเทศเป็นเจ้าภาพ ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ภาคประชาชน ไทยสหรัฐ ผ่านเรื่องราวแฝดสยาม “อิน-จัน” ระหว่างจังหวัดสมุทรสงครามและหน่วยงานท้องถิ่น ทายาทแฝดอินจัน และผู้แทนเมืองเมาท์ แอรี

เวลา 18.00 น. เริ่มงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Working Dinner) พร้อมชมการแสดงหุ่นสายของโรงเรียนวัดเขายี่สาร, โขนเด็กโรงเรียนบ้านดอนจั่น และการบรรเลงดนตรีไทยและเพลงที่เกี่ยวกับจังหวัดสมุทรสงคราม
เวลา 19.30 น. เชิญครอบครัวบังเกอร์ ร่วมงานแสงสีเสียง วิถีไทยวิถีถิ่น แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ณ อนุสรณ์สถานแฝดอินจัน ต.ลาดใหญ่

ส่วนวันที่ 11 พ.ค.2561 เวลา 08.00 น. คณะบังเกอร์เดินทางถึงอนุสรณ์สถานแฝดอิน-จัน ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อร่วมพิธีสงฆ์ เช่น ทอดผ้าไตรบังสุกุลพระสงฆ์ 9 รูป ถวายภัตตาหารและจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ พร้อมใส่บาตรพระสงฆ์ 63 รูป ก่อนจะเปิดป้ายชื่อถนนอินจัน สายข้างอนุสรณ์สถานแฝดอิน-จัน เป็นต้น

ทั้งนี้ เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป คณะบังเกอร์จะเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม เช่น มูลนิธิชัยพัฒนา ชมเตาตาลมะพร้าว การสาธิตทำน้ำตาลมะพร้าว เยี่ยมลุงสงัด ใจพรหม ผู้ปั้น
อนุสาวรีย์แฝดอินจัน สวนมะพร้าว วิธีการผลิตน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ชมการสาธิตศิลปวัฒนธรรม วัดอัมพวันเจติยาราม เป็นต้น

และวันสุดท้ายคือวันที่ 12 พ.ค.2561 ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 09.00 น. ชมโบสถ์ปรกโพธิ์ ในวัดบางกุ้ง สร้างในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช, ชมโบราณใต้น้ำและวิถีชีวิตชุมชนชาวจีนในจังหวัดสมุทรสงคราม
เป็นต้น

นายบุญญฤทธิ์ วิเชียรพันธุ์ หัวหน้ากลุ่มงานโครงการตามยุทธศาสตร์ กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ครอบครัวบังเกอร์รู้สึกดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ รวมทั้งยังหวังว่าจะมีส่วนเสริมความร่วมมือระหว่างจังหวัดสมุทรสงครามและเมืองเมาท์ แอร์รี มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ครอบครัวบังเกอร์ยังรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนหนึ่งการกระชับความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ ในโอกาสฉลองครบรอบ 185 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ในปี พ.ศ.2561

นายคันฉัตรกล่าวว่า งานคืนถิ่นแฝดสยามอิน-จัน ถือเป็นงานระดับโลก จังหวัดจึงให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนรายละเอียด เพื่อสร้างความประทับใจรวมทั้งสร้างความปลอดภัยให้กับทายาทแฝดอินจัน รุ่นที่ 4 และ 5 พร้อมคณะที่จะมาร่วมงาน 14 ราย อันจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมืองเมาท์ แอร์รี และจังหวัดสมุทรสงคราม

อย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้คาดว่าจังหวัดสมุทรสงครามจะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว เนื่องจากทายาทแฝดสยามอินจันที่เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้จะนำประสบการณ์ที่ดีไปเผยแพร่ให้กับชาวสหรัฐอเมริกาแล้ว

ยังมีรายการโทรทัศน์จากสถานี CBS ซึ่งมีเครือข่ายทั่วโลก จะมาบันทึกเหตุการณ์ทุกขั้นตอนเพื่อนำกลับไปเผยแพร่ให้กับทั่วโลกได้เห็นสิ่งดีๆ ของจังหวัดสมุทรสงคราม

ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสงคราม เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดิมปีละเกือบ 5 ล้านคนเป็นเกือบ 7 ล้านคน เฉลี่ยใช้จ่ายคนละ 1,000 บาท จะสร้างรายได้ให้สมุทรสงครามเกือบ 700 ล้านบาท

ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับจังหวัดสมุทรสงครามและประเทศไทยอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image