ผู้เขียน | ปราปต์ บุนปาน |
---|
ไม่แน่ใจว่า “เลือดข้นคนจาง” ซีรีส์ทางช่องวัน ที่โด่งดังและได้รับการพูดถึงอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้ชมคนชั้นกลาง-คนรุ่นใหม่ในเขตเมือง ซึ่งเพิ่งปิดฉากอวสานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คือ หนึ่งในละครโทรทัศน์ที่ถูกผู้นำประเทศกล่าวพาดพิงถึงหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม “มรดกตกทอด” ของครอบครัวคนเชื้อสายจีนในซีรีส์เรื่องนี้ ดูเหมือนจะน่าสนใจกว่าประเด็นการแย่งชิงมรดกตกทอดในละครที่ถูกแปะป้ายว่า “ไม่สร้างสรรค์” ทั่วไป
เพราะ “มรดกตกทอด” ดังกล่าว คือ ความผิดพลาด ความผิดบาป ความขัดแย้ง และความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในครอบครัวหนึ่ง (อาจเป็นภาพแทนหรือสัญลักษณ์ของสังคมไทย?) ซึ่งก่อขึ้นโดยคนรุ่นก่อน
แล้วส่งผลกระทบตกทอด “เชิงลบ” มาสู่คนรุ่นหลัง ตลอดจนคนรุ่นก่อนที่ยังหลงเหลืออยู่
หากใครมีโอกาสติดตามชม คำถามสำคัญที่ “เลือดข้นคนจาง” ทิ้งไว้ ก็คือ พวกเราจะเผชิญหน้ากับ “อดีตบาดแผล” หรือแก้ไขปัญหาจากเงื่อนปมเหล่านั้นอย่างไร?
ซีรีส์เรื่องนี้พูดถึงวิธีเผชิญหน้า/แก้ไขปัญหาว่าด้วย “อดีต” ที่ค่อนข้างหลากหลาย
คนรุ่นหลังบางรายเห็นว่าทุกฝ่ายควรเผชิญหน้ากับความจริงและความผิดพลาดใน “อดีต” อย่างซื่อสัตย์ เปิดเผย ตรงไปตรงมา แม้บรรดาผู้เกี่ยวข้องรุ่นก่อน ทั้งคนกระทำความผิดและคนตกเป็นเหยื่อ จะต้องเจ็บปวดรวดร้าวขนาดไหน หรือบาดแผลความขัดแย้งของส่วนรวมจะกลับมาอักเสบระบมเพียงใด
เพื่อปกป้องมิให้คนรุ่นหลังตัวเล็กตัวน้อยต้องรับผลกระทบหนักหน่วงจาก “มรดกตกทอด” ที่พวกเขาไม่รู้เรื่องราวและไม่ได้ก่อ
ขณะเดียวกัน คนรุ่นก่อนที่หลงเหลือกลับพยายามเผชิญหน้ากับ “อดีต” อย่างประนีประนอม
พวกเขาไม่ได้ต้องการเปิดเผยความจริงและความผิดพลาดแต่กาลก่อนออกสู่สาธารณะ ทว่าเลือกจะยอมรับผิดหรือสารภาพบาปต่อเหยื่อแบบจำกัดวง ผ่านการทำให้ความจริงปรากฏแก่ฝ่ายตรงข้าม แล้วขออภัย-ให้อภัยซึ่งกันและกันบนฐานความสัมพันธ์ระหว่างปัจเจกบุคคลกับปัจเจกบุคคล
เพื่อป้องกันมิให้สายสัมพันธ์ทางสังคมในสถาบันครอบครัวต้องล่มสลายลง
ขณะที่ยังมีสมาชิกครอบครัวบางกลุ่ม ซึ่งจงใจลืมเลือนและละทิ้งทำลายหลักฐานความทรงจำบางอย่าง เพื่อสร้างเกราะคุ้มครองตนเองจากความขัดแย้งทั้งมวล
อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์หมางเมินไม่อาจคืนดีโดยง่ายระหว่างคนรุ่นหลังบางส่วน ซึ่งเพิ่งจะร้าวฉานเพราะบาดแผลชีวิตรอยใหม่ อันสืบเนื่องมาจากความขัดแย้งใน “อดีต”
ก็คล้ายจะเป็น “มรดกชิ้นล่าสุด” ที่กำลังตกทอดไปถึง “อนาคต”
เหล่านี้คือจุดน่าสนใจหรือลักษณะเด่นที่ดำรงอยู่ในเรื่องราวค่อนข้างเข้มข้นของซีรีส์ทีวีเรื่อง “เลือดข้นคนจาง”
แม้ผู้ชมบางรายอาจมองว่าการโยนความผิดบาปและภาระเยียวยาแก้ไขปัญหาให้แก่กลุ่มตัวละครผู้หญิง (ไม่ใช่ผู้ชาย) หรือการยืนยันว่าสถาบันครอบครัวอันเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว ยังเป็นฐานที่มั่นสุดท้าย ซึ่งสมาชิกทุนคนพึงยึดถือและต้องปกปักรักษาไว้
จะเป็นจุดอ่อนที่ท้าทายการถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็ตาม