สถานีคิดเลขที่ 12 : ชนะ-ก็ต้องสง่างาม : โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

พอมีผลสำรวจของนิด้าโพล ยุคเปลี่ยน ผอ.คนใหม่ ที่คะแนนนิยม สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แซงนำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ทันไรก็เลยมีมหาวิทยาลัยรังสิตโพล ที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ชนะขาด ออกมาอย่างทันทีทันควันกันเลยทีเดียว

แถมโพลหลังยังเสริมบทวิเคราะห์ที่ว่า เป็นยุคตกต่ำอย่างสุดสุด ของพรรคนายทักษิณ ชินวัตร ตบท้ายอีกด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐ กำลังมาแรงเป็นเหมือนพายุที่จะเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้อย่างเด็ดขาด

แม้โพลนี้จะทำเอาคอการเมืองยิ้มขำๆ ไปตามๆ กัน

แต่เอาเข้าจริงๆ เมื่อมองจากความเคลื่อนไหวที่ปรากฏ เห็นได้ว่าพรรคพลังประชารัฐมีความครบพร้อมทุกด้านอย่างมาก ได้อดีต ส.ส.เข้ามาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง โดยดึงดูดมาจากพรรคคู่แข่งเป็นจำนวนมาก

Advertisement

แถมยังมีอาวุธ มีกระสุนอีกไม่อั้น

ในชั่วโมงนี้จึงถือได้ว่า เหนือกว่าคู่แข่งพรรคอื่นจริงๆ

ยิ่งล่าสุดเมื่อมีประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง 350 เขตของ กกต.ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ร้องจ๊ากไปตามๆ กัน

Advertisement

ยิ่งทำให้เห็นความเหนือกว่าทุกด้านของพรรคฝ่ายรัฐบาลจริงๆ

โอกาสได้ ส.ส.เข้าสภาก็น่าจะตามเป้า แถมด้วยมี 250 ส.ว.นอนรอโหวตนายกฯให้อยู่แล้ว

อะไรจะลงตัวสมบูรณ์แบบขนาดนี้

แต่กระนั้นก็ตาม เวลาที่เหลืออีก 2-3 เดือน ก็หมายความว่า ยังต้องติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของทุกพรรคทุกฝ่ายกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

เหมือนเกมฟุตบอล ที่เสียงนกหวีดจบเกมยังไม่ดัง ก็ยังต้องนั่งดูตาไม่กะพริบ

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บยังพลิกล็อกได้

ในสนามเลือกตั้ง ยังต้องดูเหตุการณ์หลังปลดล็อก เมื่อเริ่มหาเสียงกันได้อย่างเป็นทางการ

ตอนนั้นยังมีเรื่องของนโยบายแต่ละพรรค ที่จะต้องนำออกมาบอกกล่าวเพื่อจูงใจให้ประชาชนเห็นว่า ควรจะเลือกเข้ามาเป็นรัฐบาลหรือไม่

นโยบายหาเสียงนี่แหละ เคยเป็นทีเด็ดของพรรคเพื่อไทยมาทุกยุค ก็ต้องเฝ้ารอฟังกันต่อไป

แม้ว่าจะมีกฎเหล็กห้ามประชานิยมกำกับอยู่ก็ตาม แต่พรรคการเมืองที่คิดค้นนโยบายเก่งๆ ย่อมสามารถนำเสนอภายใต้เงื่อนไขเช่นนี้ได้ไม่ยาก

ไปจนถึงการเปิดชื่อผู้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ก็จะเป็นอีกจุดที่น่าสนใจ

แต่ภาพรวมๆ วันนี้ก็อย่างที่รู้กัน คือ โอกาสของพรรคพลังประชารัฐและนายกฯคนต่อไปจะชื่อประยุทธ์มีอยู่สูงมาก

เพราะฉะนั้น มีแต่ต้องรักษาสถานการณ์ได้เปรียบนี้ให้ได้ รวมทั้งไม่ทำให้การเลือกตั้งเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ เกิดความด่างพร้อย

เมื่อไม่กี่วันมานี้ พล.อ.ประยุทธ์ไปประกาศเอาไว้ที่เยอรมนี ยืนยันว่าจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรม

เป็นคำประกาศที่ถูกต้อง ควรสนับสนุน

อีกทั้งไหนๆ ก็มีความพร้อม ความเหนือกว่าชัดเจนแล้ว คงไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล มีแต่ต้องทำให้ยุติธรรมจริงๆ จะเป็นผลดีที่สุด

เหมือนกับเห็นอยู่แล้วว่าน่าจะชนะแน่ๆ ก็อย่าได้ทำอะไรไม่ชอบมาพากล จนทำให้ชัยชนะไม่สง่างามไปเลย

ที่มีข้อเรียกร้องให้องค์กรนานาชาติเข้ามาร่วมสังเกตการณ์เลือกตั้งแล้วทีแรกฝ่ายรัฐบาลมีท่าทีไปขัดไปขวาง

ปล่อยให้เข้ามาดูกันเยอะๆ เลยดีกว่า

รวมทั้งที่กลุ่มนักศึกษา นักวิชาการตั้งองค์กรมาจับตาเลือกตั้ง ก็ต้องเปิดกว้างส่งเสริมไปเลย

การเลือกตั้งที่ยุติธรรมนั้นเป็นคำกล่าวที่มีความหมายสำคัญมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image