| ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
|---|
เริ่มมีข่าวจากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ร้องเรียนว่าโดนการใช้อำนาจสกัดกั้นไม่ให้ใช้พื้นที่เปิดปราศรัยพบปะกับประชาชน โดนกีดกันการปิดป้ายรณรงค์หาเสียง ไปจนถึงการส่งเจ้าหน้าที่รัฐออกสะกดรอยติดตาม
โดยก่อนหน้านี้ก็มีเสียงร้องเรียนเช่นนี้มาเป็นระยะ แต่ช่วงหลังชักหนาหูมากขึ้น
ยังไม่นับรวมถึงข่าวประเภท จะมีการรื้อฟื้นคดีเก่าๆ ขึ้นมาเตะตัดขานักการเมืองที่กำลังมาแรง เป็นคู่แข่งนายกรัฐมนตรี
บางกรณีก็มีปรากฏการณ์ให้เห็นเป็นจริงชัดเจน ว่ามีการใช้อำนาจกระทำเช่นนั้น
บางกรณีก็ต้องรอพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป ว่าจริงตามเสียงร้องเรียนหรือไม่
ชาวบ้านอย่างเรา ก็อย่าเพิ่งไปเชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าหากไม่มีพยานหลักฐานมารองรับ
จะว่าไปแล้ว การใช้อำนาจจากฝ่ายรัฐเพื่อเล่นงานหรือปิดกั้นทางการเมืองต่อพรรคฝ่ายตรงข้ามนั้น หากมีข้อเท็จจริงชัดเจนต่อสายตาประชาชน ย่อมมีผลทำให้ทั้งสังคมยิ่งรู้สึกไม่ยอมรับการเอารัดเอาเปรียบกันเหล่านั้น
จะส่งผลให้เกิดคะแนนความเห็นใจต่อผู้ถูกรังแกมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ดังที่รู้กันว่า นิสัยคนไทยนั้น ไม่ชอบเห็นใครถูกกระทำอย่างไม่ถูกต้องเป็นธรรม ซึ่งจะนำมาสู่กระแสต่อต้านฝ่ายผู้มีอำนาจไปในที่สุด
ใช้อำนาจนอกลู่นอกทางมากๆ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายมีอำนาจ
ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐเอง ในช่วงสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ ทุกคนย่อมรู้ดีว่า ต้องวางตัวให้เหมาะสมพอดี
การเมืองกำลังจะใกล้เลือกตั้ง กำลังจะตัดสินว่า ใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลในอนาคต
ยิ่งต้องระมัดระวัง อย่าทำตัวเลือกข้าง
หรือถ้าคิดจะเลือกข้าง ก็ต้องเลือกให้ถูกข้าง
แต่เรื่องแบบนี้ คงไม่มีใครรู้ดีเท่ากับเหล่าข้าราชการที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดู ผ่านช่วงเลือกตั้งมาหลายหน
ไม่ควรเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน หรือไม่ควรสอนจระเข้ว่ายน้ำ
บรรดาข้าราชการมืออาชีพ ก็จะต้องทำงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาในทางการเมือง แบบแค่พอดีๆ
พร้อมๆ กับตรวจสอบทิศทางลมกันอย่างรอบคอบ
ข้าราชการมากประสบการณ์มักจะต้องเช็กข่าวแนวโน้มผลการเลือกตั้งอย่างละเอียดและลงลึก เพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำในการวางเนื้อวางตัว
เช็กจากเพื่อนข้าราชการในพื้นที่ต่างๆ เพื่อประมวลผลอย่างรอบด้าน เพื่อมองให้ออกว่า ประชาชนกำลังนิยมใคร พรรคไหน หรือพรรคไหนกำลังเสื่อม
เพื่อกำหนดจังหวะก้าวเดินของตัวเองให้ปลอดภัยมากที่สุด
ขืนไปรับใช้ฝ่ายหนึ่งออกหน้าออกตา แล้วผลที่สุดอีกฝ่ายเข้ามามีอำนาจแทน อย่างนี้ข้าราชการก็คงบี้แบน
แต่ทางที่ถูกต้องแล้ว ไม่ถึงกับต้องทำตัวเป็นพวกเกียร์ว่างในระยะนี้ เพราะจะกระทบต่อการบริการประชาชนหรือรับใช้สังคม
เพียงแต่ทำไปตามหน้าที่อย่างเป็นกลาง ไม่เข้าข้างใคร
เป็นข้าราชการไทยในช่วงเลือกตั้ง หูตาต้องกว้างไกล มองแนวโน้มเลือกตั้งให้ทะลุปรุโปร่งเช่นนี้เอง
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
