เลือกนายกฯ

การเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกๆ อย่างที่พรรคการเมืองกำหนดล้วนมีความหมาย

นับตั้งแต่จุดยืนที่แต่ละพรรคประกาศออกไป ได้ก่อกระแสที่ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตัดสินใจในเบื้องต้น

ตัดสินใจเลือกระหว่างพรรคที่สนับสนุน คสช. กับพรรคที่ไม่สนับสนุน คสช.

แต่พรรคที่อยู่ในขั้วสนับสนุน คสช. กับพรรคที่อยู่ในขั้วไม่สนับสนุน คสช. มีหลายพรรค

ปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจต่อไป คือ นโยบายพรรค

ขณะนี้แม้จะมีปรากฏนโยบายให้ได้ยินบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ชัดเจนนัก

อาจเป็นเพราะนโยบายแต่ละพรรค ฟังดูแล้วไม่แตกต่างกัน

ทุกพรรคมีแนวทางของตัวเองที่น่าสนใจ

พปชร. นำเสนอประชารัฐ พท.นำเสนอประชานิยม ปชป.นำเสนอประกันรายได้ ภท.ทำสงครามกับความยากจน

อนค.ขออาสาเป็นตัวแทนคนส่วนใหญ่ ดึงเอาอำนาจและประโยชน์ของรัฐ ไปกระจายแก่คนทั่วประเทศ

เป็นต้น

และต่อไปเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง และมีการกำหนดการเลือกตั้ง

เมื่อแต่ละพรรคต้องเสนอนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม

ถึงตอนนั้น คงจะได้ยินแต่ละพรรคนำเสนอนโยบายที่แตกต่างมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังเกิดปัจจัยใหม่ที่ทำให้แต่ละพรรคมีความเหมือนและต่างกันชัดแจ้งขึ้น

นั่นคือ การนำเสนอรายชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรี

กรณีจุดยืนของพรรคแต่ละพรรค แม้จะมีความแตกต่าง แต่ก็ยังมองเห็นเป็นกลุ่มก้อน

คือกลุ่มสนับสนุน คสช. กับกลุ่มไม่สนับสนุน

แต่กรณีตัวบุคคลที่จะเป็นนายกฯ จะทำให้แต่ละพรรคมีความแตกต่างกันชัดเจน

ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคอื่นๆ

แต่ละพรรคย่อมเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของตัวเอง

เชื่อว่า เมื่อได้เห็นชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯแล้ว นำไปผนวกรวมกับนโยบาย และจุดยืนของแต่ละพรรค

จะทำให้ทุกคนตัดสินใจได้ก่อนหย่อนบัตรเลือกตั้ง

ยิ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ มีระยะเวลาหาเสียงไม่เพียงพอ เนื่องจากทุกพรรคต้องเริ่มอธิบายแนวคิดและนโยบายกันใหม่หมด

ดังนั้น การโชว์ตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆ

ขณะนี้มีรายชื่อของบุคคลที่อยู่ในข่ายได้รับการเสนอให้เป็นนายกฯ เพิ่มเติมมาเรื่อยๆ

ทั้งชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน

ชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย

ชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

รวมทั้งชื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐแย้มมาแล้วว่า จะเปิดชื่อนายกฯ ที่่พรรคจะนำเสนอภายใน 2 สัปดาห์นับแต่นี้

เชื่อว่าเมื่อแต่ละพรรคเสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯ กันแล้ว

จะช่วยให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมา บางครั้งผู้มีสิทธิเลือกโดยใช้ปัจจัย “คน” และบางครั้งคนก็เลือกโดยอาศัยปัจจัย “พรรค” หรือนโยบาย

แต่ครั้งนี้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอาจจะเลือกโดยยึดปัจจัยใหม่

คือเลือกเพราะอยากได้ตัวแทนที่พรรคการเมืองนั้นเสนอขึ้นเป็นนายกฯ

หรือต้องการจะเลือกนายกฯนั่นเอง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่